วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

เลขาฯ สคบ.ส่งหนังสือขอความร่วมมืองดโฆษณา “เปปทีน”

Spread the love

             เลขาฯ สคบ.ส่งหนังสือขอความร่วมมืองดโฆษณา “เปปทีน” หลังพบประเด็นที่อาจทำให้เข้าใจผิด 4 เรื่อง-เตรียมเชิญ บ.โอสถสภาฯ เข้าชี้แจง

จากกรณีที่ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี (สพท.) เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ บริษัท โอสถสภา จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม “เปปทีน” ให้ละเว้นการนำนิสิตนักศึกษาแพทย์ มารับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” เพราะก่อให้เกิดภายลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม และอาจเป็นการละเมิดหลักจรรยาบรรณนิสิตนักศึกษาแพทย์บางประการ

ขณะ ที่มีการตรวจสอบพบว่า บริษัท โอสถสภาฯ เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวน 5 ครั้งด้วยกัน เนื่องจากไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ในความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารเพื่อประโยชน์ในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน อย.

ล่าสุด ในวันที่ 29 ก.ค.2556 ที่ผ่านมา นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทโอสถสภาฯ เพื่อขอความร่วมมืองดแพร่ภาพการโฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” โดยอ้างเหตุผลว่า สำนักงาน สคบ. ได้รับหนังสือจากแพทยสภาขอหารือเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” ที่มีการโฆษณาเกี่ยวกับโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบและอื่นๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้

สำนัก งาน สคบ. จึงได้หารือเรื่องดังกล่าวร่วมกับ แพทยสภาและสำนักงาน อย. ในวันที่ 29 ก.ค.2556 และพบประเด็นการโฆษณาที่อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ดังนี้

1.การ โฆษณาเกี่ยวกับสรพคุณของเครื่องดื่มที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สมอง เช่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยจัดระบบความจำ เติมความรู้ที่ขาด รวมทั้งการสื่อให้เข้าใจว่าเมื่อดื่มแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์

2.การโฆษณาที่สื่อให้เข้าใจว่าเมื่อเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะสอบติดทั่วประเทศ

3.ความเหมาะสมของการนำนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ มาโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง

4.การ สื่อให้เข้าใจว่าหากเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะทำให้ได้เป็นแพทย์ เกี่ยวกับสมองหรือแพทย์เกี่ยวกับตา ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นเพียงสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญา ตรีเท่านั้น การที่จะเป็นแพทย์ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมองหรือตา หรืออื่นๆ จะต้องเรียนต่อโดยสอบเข้าเฉพาะด้านที่สูงกว่าปริญญาตรี และการเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติ

“สำนัก งาน สคบ.จึงขอความร่วมมือท่านงดแพร่ภาพการโฆษณาในประเด็นดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ จนกว่าจะมีการพิจารณาการใช้ข้อความดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงาน สคบ.จะเชิญบริษัท โอสถสภาฯ ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาต่อไป” หนังสือดังกล่าวระบุ.

 

 

ขอบคุณที่มา http://www.isranews.org/component

 

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ