วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

เริ่มเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป

Spread the love

 

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เตรียมความพร้อมในการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยจะเริ่มเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป และสามารถขึ้นบินช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสม

น.ส.หนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เตรียมความพร้อมในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าในเขตภาคเหนือ โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคทั้ง 5 ศูนย์ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ เตรียมความพร้อมโดยติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และเติมน้ำให้กับเขื่อนกักเก็บน้ำในเขตภาคเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่สำหรับ จังหวัดเชียงใหม่ ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีสภาพอากาศที่จะสามารถทำฝนหลวงได้ก็จะเร่งทำ ซึ่งช่วงนี้มีสภาพอากาศที่แปรปรวนและมีพายุพัดเข้ามา ทำให้ค่า PM10 ไม่เกินค่ามาตรฐาน (ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลบม.) โดยแผนปฏิบัติการประจำปีของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง กำหนดเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนจะเน้นเรื่องการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นหลัก ร่วมกับปัญหาภัยแล้งระยะที่ 1 และช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เป็นเรื่องของปัญหาภัยแล้งระยะที่ 2 ที่จะช่วยเหลือและบรรเทาความต้องการน้ำทางการเกษตร และช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงตุลาคม จะเป็นเรื่องของปัญหาภัยแล้งระยะที่ 3 นอกจากนี้ ยังมีแผนเติมน้ำต้นทุนของเขื่อนกักเก็บน้ำอีกด้วย ซึ่งแผนปฏิบัติการในทุกๆแผน จะมีการปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลาทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ จะดูแลคลอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก โดยมีเครื่องบินรวม 4 เครื่อง ได้แก่ เครื่องบินกาซ่า จำนวน 2 เครื่อง เครื่องบินชนิดซีเอ็น จำนวน 1 เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่อง เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงสร้างความชุมชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และเพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในเขตภาคเหนือ และเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่หมอก และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ยังคงติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงในการช่วยเหลือพื้นที่ร้องขอทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสม ซึ่งได้ประสานประชาชนเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น โดยสามารถแจ้งข้อมูลสถานการณ์ความต้องการฝนในพื้นที่โดยตรงทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5327-5051 ต่อ 12 และติดต่อข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ หรือทางเว็ปไซด์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrain.go.th รวมทั้ง มีบริการข้อมูลผลตรวจเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศบนหน้าเว็ปไซด์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร http://122.154.75.14/RRMThaiGov/RadarApp/RadarMainRoyalRain.php