เมียน้อยโหด!! สุมหัวชู้ ลวงฆ่าผัวเสี่ยทิ้งศพสวนยาง

เมียน้อยโหด!! สุมหัวชู้ ลวงฆ่าผัวเสี่ยทิ้งศพสวนยาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว น.ส.สุปราณี เพชรทองอายุ 25 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังอำพรางศพ ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ระบุว่า นายวัฒนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ จนกระทั่งมาพบว่าถูกฆาตกรรมอำพรางศพเอาไว้ในสวนยางพารา

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา น้องสาวของ นายวัฒนา ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า พี่ชายได้หายตัวไป ระหว่างนำเงิน 400,000 บาท ไปจ่ายให้กับลูกค้า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค. เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการสืบสวนแกะรอยการหายตัวไปของนายวัฒนา พบว่ามีการติดต่อกับ น.ส.สุปราณี ซึ่งเป็นภรรยาน้อยในช่วงเช้าก่อนจะหายไปตัว จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวน น.ส.สุปราณี ให้การวกวน ยอมรับว่า ช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค. ได้นัดพบกับ นายวัฒนา เพื่อเข้าไปทำธุระที่ อ.ไชยา หลังจากนั้นช่วงบ่ายได้แยกกัน ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงได้เค้นสอบอยู่นานกว่าครึ่งวัน จนกระทั่ง น.ส.สุปราณี ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับเพื่อนชายคนสนิท ล่อลวง นายวัฒนา ไปฆ่าและนำศพไปทิ้งไว้ในสวนยางพารา

น.ส.สุปราณี สารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุกับ นายทวีทรัพย์ สิทธิศักดิ์ อายุ 25 ปี เพื่อนชายคนสนิท ก่อนหน้านี้ น.ส.สุปราณี ได้อาศัยอยู่กินกับผู้เสียชีวิต แต่แอบคบหากับ นายทวีทรัพย์ อย่างลับๆ อีกคน จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ นายวัฒนา เริ่มจับได้ว่าตนมีชู้ จึงได้เลิกรากันและไปอยู่กับ นายทวีทรัพย์ ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นัดผู้เสียชีวิตออกมาพบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยให้ นายทวีทรัพย์ ซ่อนตัวอยู่บนรถ รอจังหวะให้ นายวัฒนา ขึ้นมาบนรถ จึงใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงให้เสียชีวิต ก่อนจะขับรถนำเอาศพไปฝังที่สวนยาง แล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติ ส่วน นายทวีทรัพย์ ได้หนีกลับบ้านเกิดที่ จ.ตรัง

ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ กำลังเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปยังจุดที่อ้างว่า นำเอาศพ นายวัฒนา มาอำพรางคดี เมื่อตรวจสอบพบร่างของ นายวัฒนา ถูกฝังเอาไว้ใกล้กับบ้านพักคนงานสวน ยางพารา สภาพศพถูกแทงตามร่างกายหลาย 10 แผล ขณะที่ทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่ามีการสูญหายหรือไม่ แต่เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นไว้ 2 ปม คือ ปมชู้สาวและฆ่าเพื่อชิงทรัพย์

ขอบคุณที่มา http://news.sanook.com/1395357/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%

สำนักข่าว