วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

เชียงใหม่ เชิญชวนพสกนิกรแสดงความจงรักภักดีเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

Spread the love

 

เชียงใหม่ เชิญชวนพสกนิกรแสดงความจงรักภักดีเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

จังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนพสกนิกรแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสา- ธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

 จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีวันคล้ายวันพระราชสมภพ โดยเชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมในพิธี เพื่อแสดงความจงรักภักดี และเฉลิมพระเกียรติ ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2556 เวลา 08.15 น. ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นายอดิศร  กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราช-สมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร วันที่ 28 กรกฎาคม 2556 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนและกลุ่มพลังมวลชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาขึ้น ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.15 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และแสดงออกถึงความจงรักภักดี รวมทั้งเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า       ทั่วประเทศ  โดยพิธีจะเริ่มจากพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจะร่วมลงนามถวายพระพรต่อเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ จากนั้นในเวลา 09.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานในพิธีจะลงนามถวายพระพร ถวายเครื่องราชสักการะ (พานพุ่มดอกไม้สด) กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ประธานในพิธีและผู้แทนหน่วยงานถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จากนั้นพระสงฆ์จะอนุโมทนา เป็นเสร็จพิธี

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17.45น. ณ พระที่นั่ง    อัมพรสถาน พระราชวังดุสิต  ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนจิตรลดา แล้วจึงเสด็จฯ ไปทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และโรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซท ประเทศอังกฤษ จากนั้นทรงศึกษาต่อ ที่โรงเรียนคิงส์สกูล ซิดนีย์ และสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการทหารดันทรูน แคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย หลังจากเสด็จกลับประเทศไทย ทรงรับราชการทหาร และศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 46 เมื่อ พ.ศ. 2520 และทรงผนวช เมื่อ พ.ศ. 2521 จากนั้นทรงศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รุ่นที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2525 และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร จากประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2533

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สามแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ทรงเป็นแรกภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงตำแหน่งสยามกุฎราชกุมารนั้น ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนนานัปการ ทั้งการเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในถิ่นทุรกันดาร เสด็จพระราชทานสิ่งของแก่ราษฎรในคราวที่ประสบภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะในยามที่ประเทศไทยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงเห็นพระทัยและทรงเข้าพระทัยความเดือดร้อนของราษฎร จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่   น้ำท่วมต่าง ๆ หลายครั้ง เพื่อพระราชทานขวัญและกำลังใจให้กับราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมและเจ้าหน้าที่      ผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้การช่วยเหลือ

ด้านศาสนา ได้เสด็จแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ และด้วยพระปรีชาสามารถด้านการบิน พระองค์ทรงเป็นนักบินเที่ยวพิเศษในเที่ยวบินมหากุศล เพื่อนำคณะพุทธศาสนิกชนกราบสักการะพุทธสังเวชนียสถาน สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลพุทธคยา ประเทศอินเดีย โอกาสนี้ ทรงนมัสการพระพุทธเมตตา พร้อมทรงห่อผ้ารอบต้นศรีมหาโพธิ์ อันเป็นการเดินทางเพื่อสักการะสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนา และเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาให้เจริญต่อไป

ด้านการศึกษา ทรงตระหนักว่า เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ยังขาดโอกาสทางการศึกษา จึงทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบทุนเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียน

ด้านการเกษตร ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมด้านการเกษตรนานัปการ อาทิ เสด็จฯแทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล นอกจากนี้ ยังทรงรับโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ไว้ในพระราชา-        นุเคราะห์ ในปี 2545 เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรที่เป็นแหล่งบริการความรู้เฉพาะด้านกับเกษตรกร มีเป้าหมาย  ที่จะนำความรู้วิทยาการใหม่ และบริการทางวิชาการต่างๆ อีกทั้งเป็นการบูรณาการนักวิชาการแต่ละสาขา    ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ประมง พัฒนาที่ดิน ฯลฯ

ด้านการทหาร ทรงดำเนินงานทางด้านการทหารเสมอมา รวมทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ที่มีการปะทะเพื่อเยี่ยมเยียนและพระราชทานขวัญกำลังใจให้กับราษฎรและเจ้าหน้าที่ ถึงแม้เส้นทางในการเสด็จพระราชดำเนินแต่ละครั้งจะพบอุปสรรคหรือความยากลำบากเพียงใด พระองค์มิทรงย่อท้อ เพราะทรงเห็นถึงความทุกข์ยาก และความผาสุกของประชาชนเป็นสำคัญ บางครั้งประทับแรม ณ ฐานปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นทุรกันดาร

ดังนั้นในโอกาสอันเป็นมหามงคลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน จังหวัดเชียงใหม่จึงขอเชิญชวนพสกนิกรทุกภาคส่วนร่วมพิธีเพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านในวันดังกล่าว

 

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ