วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

เชียงใหม่จัดประชุมแก้ไขปัญหาหมอกควัน

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดการประชุมเตรียมความพร้อมกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควัน

หมอกควัน

 

คณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ จัดการประชุมเตรียมความพร้อมกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติ และความพร้อมในการจัดรูปแบบวิธีการดำเนินการ รวมทั้งมวลชนที่จะเข้าร่วม และนิทรรศการต่าง ๆ ของหน่วยงานและองค์กรที่จะนำมาจัดแสดงภายในบริเวณงาน

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.57  เวลา 13.30 น. นายจงคล้าย วรพงศธร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมร่วมกันหารือการจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

นายจงคล้าย วรพงศธร เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2558 ที่จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 บริเวณสนามภายในอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีกำหนดการจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควัน ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 โดยจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 8.30น. – 11.00น. โดยมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานในพิธี มีการจัดแสดงสาธิตผู้ประสบภัยจากที่สูง และพิธีมอบธงตราสัญลักษณ์ กิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ให้กับอำเภอต่าง ๆ ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ขอเชิญชวนร่วมบริจาค กองทุนแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เพื่อใช้เป็นรางวัลนำจับ หากมีผู้ชี้เบาะแสการจุดไฟเผาป่า ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดอีกด้วย

 

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

 


เชียงใหม่จัดประชุมแก้ไขปัญหากรณีสถานบริการ สถานบันเทิง

Spread the love

               จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมแก้ไขปัญหากรณีสถานบริการ สถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะเรียกเก็บค่าอาหาร เครื่องดื่มและค่าบริการสูง

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมแก้ไขปัญหากรณีสถานบริการ สถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะเรียกเก็บค่าอาหาร เครื่องดื่มและค่าบริการสูง โดยตัวแทนผู้ประกอบการให้คำยืนยันจะให้ความร่วมมือในการติดป้ายราคาค่าบริการให้ลูกค้าทราบพร้อมทั้งสรุปค่าใช้จ่ายแจ้งให้ลูกค้าทราบทุกชั่วโมง ซึ่งคาดว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาการร้องเรียนของลูกค้าได้มากขึ้น

วานนี้ (23 ส.ค. 56) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมศูนย์อำนวยความเป็นธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3   ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร  กำเนิดศิริ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหากรณีสถานบริการ สถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะ เรียกเก็บราคาค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการสูงเกินไป ครั้งที่ 2/2556 หลังจากที่การประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 ที่ประชุมมีมติให้เชิญสถานประกอบการทั้ง 7 แห่งที่ถูกร้องเรียนจากผู้ใช้บริการว่าคิดราคาค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการสูงเกินไป หรือสูงกว่าความเป็นจริงมาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันด้วย โดยผู้แทนสถานประกอบการทั้ง 7 แห่งประกอบด้วย ร้านไออิคาราโอเกะ (มอนโร) ร้านไวโอลิน คาราโอเกะ ร้านบันนี่ เกิร์ล (Bunny Girl) ร้านพิงค์เลดี้ ร้านคลาสโนว่า คาราโอเกะ ร้านโรส และร้านคลีโอ ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ขอความร่วมมือสถานประกอบการทั้ง 7 แห่ง คิดค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการต่าง ๆ ให้สมเหตุสมผล และให้จัดทำป้ายแสดงราคาไว้ในรายการ(เมนู)อาหาร เครื่องดื่ม ค่าพนักงานนั่งบริการ หรือนั่งดริ๊งก์  โดยให้มีรายละเอียดว่า 1 ดริ๊งก์มีกำหนดระยะเวลากี่นาที คิดค่าบริการดริ๊งก์ละเท่าใด ค่าห้องคาราโอเกะแต่ละประเภท ฯลฯ โดยให้นำรายการดังกล่าวแสดงให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการ เมื่อหมดเวลาในแต่ละดริ๊งก์ให้พนักงานบริการแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่าหากประสงค์จะใช้บริการนั่งดริ๊งก์ต่อ ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม

นายสืบพงศ์ ฯ ผู้แทนสถานประกอบการร้านคาราโอเกะ ทั้ง 7 แห่ง ได้ให้คำยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ร้องขอ โดยนับจากนี้ไปสถานบริการทุกแห่งจะไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใช้บริการ โดยได้มอบนโยบายให้ผู้จัดการร้านทุกแห่งดำเนินการแล้ว จะดำเนินการติดป้ายค่าอาหาร เครื่องดื่มและค่าบริการต่าง ๆ ให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าและจะสรุปรายงานการใช้บริการให้ลูกค้าทราบทุกชั่วโมงก่อนที่จะใช้บริการต่อ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐานกรณีที่มีปัญหากับผู้ใช้บริการ รวมทั้งได้กำหนดให้มีพนักงานหญิงที่แต่งกายเรียบร้อยคอยบริการลูกค้าหน้าร้านแห่งละ 2 คนตามคำร้องขอของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาระหว่างสถานประกอบการและลูกค้าผู้เข้าไปใช้บริการได้เป็นอย่างดี  ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ก็จะได้มีการบูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ลงไปตรวจตรา กวดขัน สถานบริการ สถานบันเทิงทั้ง 7 แห่ง เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของสถานประกอบการดังกล่าวต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 8 มกราคม 2556 เรื่อง การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ และห้ามมิให้ผู้ประกอบการค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านภาวะเศรษฐกิจและอยู่ในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ อาจส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการมีการปรับราคาไม่สอดคล้องกับต้นทุน ดังนั้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ จังหวัดเชียงใหม่จึงแจ้งให้ผู้ประกอบการค้าปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรมและปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกในลักษณะที่เห็นได้ชัดเจนเปิดเผย สามารถอ่านได้โดยจ่าย ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และห้ามมิให้กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายหรือขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นความไม่เป็นธรรมทางการค้าหรือถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องของราคาสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์/โทรสาร 0-5311-2659-61 หรือที่สายด่วนผู้บริโภค 1569 กรมการค้าภายในได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หากพนักงานเจ้าหน้าที่พบเห็นการกระทำผิดหรือได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้บริโภคจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ


เชียงใหม่จัดประชุมแก้ไขและปรับปรุงผังเมือง

Spread the love

                จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.2555

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.2555 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.56ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.2555 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 130 ตอนที่ 43ก ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 มีผลบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2556 – 20 พฤษภาคม 2561 ครอบคลุมพื้นที่ 429 ตารางกิโลเมตร หรือ 268,125 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ สันทราย เมืองเชียงใหม่ ดอยสะเก็ด สันกำแพงสารภี หางดง และ แม่ริม ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไป โดยการวางและจัดทำผังเมืองรวมตามกฎกระทรวงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อมในบริเวณแนวเขต ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ดังกล่าว มีนโยบายและมาตรการเพื่อจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงข่ายคมนาคมขนส่งขนส่งและบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับและสอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้าและบริการของภาคเหนือเชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมที่มีคุณค่าทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมงานหัตถอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตรที่ใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและพัฒนาการบริการทางสังคม การสาธารณูปโภค และสาธารณูปการให้เพียงพอและได้มาตรฐาน พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งของภาคเหนือ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายวิชัย ขจรปรีดานนท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นผู้แทนจากองค์กรส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน นักลงทุน และภาคประชาชน ประมาณ 250 คน เพื่อร่วมกันพิจารณาผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ฉบับดังกล่าวว่ามีข้อสังเกต หรือควรแก้ไขปรับปรุงอย่างไรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อมอย่างไร จากนั้นจะประมวลสรุปถึงความเหมาะสมของผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่สามารถพัฒนาเมืองเชียงใหม่ได้อย่างแท้จริง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากความล่าช้าของการประกาศใช้ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ฉบับใหม่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงต้องดำเนินการเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องจากเกิดรอยต่อของการดำเนินการระหว่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ฉบับเดิมที่หมดอายุและฉบับใหม่ ทำให้สภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน รวมทั้งนโยบายการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่และยุทธศาสตร์ของประเทศก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ประกอบกับ กฎหมายผังเมือง มาตรา 26 (3) ได้ระบุไว้ว่า หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปทำให้การบังคับใช้ผังเมืองไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงก็สามารถขอแก้ไขผังเมืองรวมดังกล่าวได้ ทั้งนี้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เสนอให้จังหวัดเชียงใหม่เชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณาและให้ข้อคิดเห็นในการขอแก้ไขปรับปรุงผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ เสนอกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไป จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ที่จะประกาศใช้จะเป็นโอกาสในการพัฒนาและอาจเกิดผลกระทบขึ้น ดังนั้นความคิดเห็นที่ได้จากที่ประชุมซึ่งเป็นผู้แทนจากทุกภาคส่วนในการพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินก็จะครอบคลุมในทุกด้านและมองไปในอนาคตด้วย โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีชื่อปรากฏอยู่ในแผนที่โลก ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนชาวต่างชาติทั้งด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย ดังนั้นการกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ให้สอดรับกับการเจริญเติบโตในอนาคต ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งที่เป็นเมืองเชียงใหม่ให้กับคนรุ่นหลังต่อไป จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการคมนาคมรองรับไว้แล้ว

 

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ