อันซีนไทยแลนด์!!!ผาวิ่งชู้ชมความสวยงามของผาสูงพร้อมสัมผัสตำนานความรักอมตะ

Spread the love

เชียงใหม่-อันซีนไทยแลนด์!!!ผาวิ่งชู้ชมความสวยงามของผาสูงพร้อมสัมผัสตำนานความรักอมตะ

ผาวิ่งชู้ชมความสวยงามของผาสูงจากธรรมชาติพร้อมสัมผัสตำนานความรักอมตะข้ามชนชั้น ตามความเชื่อคนในพื้นที่กราบไหว้ขอพรให้รักยืนยาว
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่บ้านดงดำ หมู่ 5 ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของผาวิ่งชู้ที่มีหน้าผาเป็นหินที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรอย่างสวยงามโดยยื่นไปบริเวณลำน้ำปิงท่ามกลางทิวเขาวิวทิวทัศน์สูงและยังเป็นตำนานเรื่องเล่าความรักอมตะของหญิงชายซึ่งต่างชนชั้นกันด้วย เมื่อไปถึงบริเวณลานกว้างพบ ศาลาซึ่งมีรูปชั้นของชายหญิงคู่หนึ่ง โดยด้านหน้ามีม้าสีขาวอยู่หนึ่งตัวให้ผู้ที่ไปท่องเที่ยวได้กราบไหว้ และบริเวณศาลเป็นรูปปั้นชายหญิงนั่งขี่ม้าสีขาว โดยมีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า ย้อนรอยอดีตรักอมตะผาวิ่งชู้  สำหรับผาวิ่งชู้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงตระหง่าน มีเสาดินเป็นยอดแหลมสูงๆ ต่ำๆ บริเวณที่เป็นหน้าผามีความกว้างประมาณ 250 เมตร สูง 25 เมตร ในขณะที่ริมฝั่งด้านขวาเป็นพื้นราบ เมื่อมองจากจุดชมวิวจะเห็นเป็นแท่งเสาหินยอดแหลมตั้งตระหง่าน
นายจรัญ นะวะโต กำนันตำบลฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟัง พระยาแสนโทเป็นผู้ปกครองเจ้าเมืองทางลำพูน มีธิดาชื่อพระนางแอ่นฟ้า กับพระนาย และได้ไปรักไคร่กับลูกชายเสนาชื่อน้อยสิงห์คำ ปัญหารักต่างฐานันดรจึงเกิดขึ้น  แต่ด้วยความรักทั้งสองที่มีต่อกันจึงตกลงหนีออกจากเมืองโดยการควบม้าสีขาวไปกลางดึกสงัด ความทราบถึงพระยาแสนโทได้กริ้วมากสั่งทหารออกติดตาม ขณะที่พระนางแอ่นฟ้าและน้อยสิงห์คำกำลังควบม้า ได้ยินเสียงเท้าม้ากระทบแผ่นดินสะเทือนเลือนลั่นตามมาติดๆทั้งสองเห็นจวนตัวจึงหยุดริมชายป่าปรึกษากันว่า อยู่ก็ตายหนีก็ตายเราจะกระโดดหน้าผาอันสูงชันนี้ตายด้วยกันทั้งสองจึงเห็นควร แต่น้อยสิงห์คำไม่กล้าบังคับม้าให้กระโดดหน้าผา  พระนางแอ่นฟ้าจึงอาสาบังคับม้าแทนให้น้อยสิงห์คำนั่งช้อนท้าย และใช้ผ้าขาวผูกตาม้าไว้เพื่อไม่ให้ม้าเห็นหน้าผา  จากนั้นพระนางแอ่นฟ้าได้ตีม้าอย่างแรง ม้าจึงวิ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตกลงไปหน้าผาสูงลงสู่แม่น้ำปิงจมหายไปทั้งม้าทั้งคน ต่อมาหน้าผาแห่งนี้เรียกว่า ผาวิ่งชู้ ร่างของน้อยสิงห์คำลอยไปติดท่าน้ำแห่งหนึ่งจึงเรียกที่นี่ว่า บ้านน้อย ร่างของพระนางแอ่นน้อยลอยไปติดอีกท่าน้ำเรียกว่าบ้านแอ่น ส่วนผ้าขาวที่ปิดตาม้าจมอยู่ในน้ำเรียกว่าวังผ้าขาวส่วนร่างของม้าลอยไปติดไม่ไกลนักเรียกที่นั้นว่า ท่าม้า ส่วนเจ้าผานาย พี่ชายของพระนางแอ่นฟ้าที่ร่วมขบวนมากับทหารที่ไล่ติดตามพระนางแอ่นฟ้ากับน้อยสิงห์คำ เห็นรอยม้ากระโดดลงหน้าผาไป จึงโศกเศร้าเสียใจอาวรณ์เป็นอย่างยิ่งจึงตรอมใจขาดใจตายที่ริมห้วยใกล้กับหน้าผาและที่นี้ว่า ห้วยผานาย เป็นตำนานรักอมตะเรื่องเล่ามาจนถึงทุกวันนี้ โดยชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะมากราบไหว้ขอให้มีความรักยืนยาวอมตะเหมือนกับพระนางแอ่นฟ้าและน้อยสิงห์คำตามตำนาน