หนุ่มลำพูนเจ้าของธุรกิจแคบหมูภาคเหนือร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่หลังถูกสาวหลอกเชิดงานแต่ง

หนุ่มลำพูนเจ้าของธุรกิจแคบหมูภาคเหนือร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ ช่วยเหลือหลักถูกสาวคนรักหลอกเอาเงินและเตรียมแต่งานสูญเงินไปเกือบล้านบาท แต่มีหลักฐานชัดกว่า 4 แสนบาท ขณะที่เตรียมแต่งงานถ่ายภาพแจกการ์ด แต่สาวขอเลื่อนก่อนตีตัวออกห่างหายตัว ยังพบมีอีกหลายคนถูกหลอกขอให้ออกมาช่วยกันเรียกร้องเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 9 พ.ย.60 นายทศพล ศิริ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 2 ตำบลหนองช้างคืน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เจ้าของธุรกิจแคบหมูรายใหญ่ภาคเหนือ ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ต่อนายเอกราช รังสรรค์ นิติกรชำนาญการประจำศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเอกสารการแจ้งความพร้อม หลักฐานการโอนเงิน ภาพพรีเวดดิ้ง เป็นหลักฐานเพื่อให้ช่วยเหลือติดตามหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพริตตี้สปาชื่อดัง หลักจากได้หลอกแต่งงาน และยืมเงินที่โอนผ่านธนาคารไปกว่า 4 แสนบาท หลักจากแจ้งความแล้วคดีไม่คืบหน้า ให้ต้องขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ช่วยติดตามเพราะได้หายตัวไป ทราบเพียงว่ามาทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่

นายทศพล กล่าวว่า ตนเองเหมือนถูกหลอกจากนางสาววราพร ใช้การเป็นแฟนกันมายืนเงินไปตอลด 1 ปีที่คบหากัน แต่เนื่องจากความไว้ใจจึงโอนเงินไปให้ และมีอีกที่ไม่มีหลัก รวมไปถึงการเตรียมจะแต่งงานที่ต้องจ่ายเงินทั้งจองโรงแรม ถ่ายภาพ ทำการ์ด ชุดแต่งงาน รวมเงินที่สูญเสียไปเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งตามกำหนดจะต้องแต่งงานวันที่ 15 ธันวาคม 2559 แต่ฝ่ายเจ้าสาวได้ขอเลื่อนเนื่องจากความไม่พร้อม ตนก็ยินยอมแต่หลังจากเลื่อนมาตนก็ยังคบหามีการยืนเงินกันแต่มาช่วงหลังอยู่ก็ตีตัวออกห่างแล้วก็หายไป บล๊อคเฟส บล๊อคเบอร์ บล๊อคทุกอย่าง ไม่สามารถติดต่อ แต่มาทราบภายหลังว่ายังพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ทำพฤติกรรมเช่นนี้กับผู้ชายคนอื่นในลักษณะเดียวแต่อับอายไม่หกล้าร้องเรียน ก็ขอให้ติดต่อตนเพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามการมาเรียกร้องครั้งนี้ก็ต้องการให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้ผู้ชายคนอื่นที่คาดว่าจะถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันตกเป็นเหยื่อ กับหญิงสาวรายนี้อีกหากท่านใดที่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนก็ขอให้ออกมาร่วมกันดำเนินการทางกฎหมาย

ด้านนายเอกราช ได้รับเรื่องราวพร้อมให้เขียนคำร้องในการขอความช่วยเหลือ เบื้องต้นจะขอติดตามนางสาววราพร ไปตามที่อยู่จังหวัดเชียงราย เพื่อให้มาเจรจากันในเบื้องต้นที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ของทั้งสองฝ่ายเพื่อตกลงกันถึงเงินดังกล่าว