วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับตีนแมว พบก่อคดีอื้อ

28 มี.ค. 2017
563
Spread the love

S__33308946

สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับตีนแมว พบก่อคดีอื้อ

 

เมื่อวันที่  27  มี.ค.  2560   เวลาประมาณ   11.00  น. โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิวัชร์  ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ , พ.ต.ท.บัณฑิต  จิตต์ภาคภูมิ รองผกก.สสฯ , นำโดย  พ.ต.ท.ฐนศกณ  ประมาณ สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.อานนท์  เชิดชูตระกูลทอง  สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส.ฯ,ร.ต.ท.อนันต์ พรมมานอก รอง.สว.สสฯ , ด.ต.ศักดา ถุงเงิน , ด.ต.พนาพันธ์  ผ่องพันธุ์ , ด.ต.ธนวินท์  พรหมวังขวา,  ด.ต.สมทรัพย์  ดวงคำ, จ.ส.ต.ประดิษฐ์  แก้วก๋อง และส.ต.ต.เสถียร  เปาแก้ว

เจ้าหน้าที่ ตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ท.ศุภกร  ตังคะประเสริฐ สว.งานสืบสวน กก.4บก.ทท.,ร.ต.อ.อมร โสภา รองสว.งานสืบสวน กก.4บก.ทท.,ด.ต.เชาวลิต สบายสุข,ด.ต.สิทธิโชค แจ่มใส ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.4บก.ทท.

เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ภูพงค์ราชนิเวศน์ โดยการอำนวยของ พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผกก.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์,พ.ต.ท.อมรพงษ์ พงษ์สุพรรณ รอง.ผกก.สส.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์,นำโดยพ.ต.ท.อนุรักษ์ นิลเขตร์ สว.สส.สภ.ภูพิงค์ฯ,ร.ต.ท.อนุตร อุปอินทร์ รอง.สว.สส.,ร.ต.ท.ธีรศักดิ์ ธัญธราดล รอง.สว.สส.,ร.ต.ท.วริษฐ์ มั่งคั่ง รอง.สว.สส.,       ด.ต.สุชาติ นำปา, ด.ต.จิรกิตติ์ อินสวัสดิ์,ด.ต.มานพ สุริยมณี,ส.ต.ท.อนุชิต หมื่นนามหน่อ

ได้ร่วมกันจับกุม

นายสาธิต  หรือทิต  ไววาง   อายุ  31  ปี ที่อยู่ 10  หมู่  3  ต.สุเทพ   อ.เมือง   จ.เชียงใหม่

พร้อมด้วยของกลาง  

1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบออลอินวัน(จอในตัว)ยี่ห้อACERหมายเลขประจำเครื่อง S/N: DQB3RST00363000DB13000  พร้อมอุปกรณ์  จำนวน  1  เครื่อง

2.คอมพิวเตอร์ NET BOOK  ยี่ห้อ ACER  หมายเลขประจำเครื่อง S/N: 7BI 101304B443052237211  จำนวน  1  เครื่อง

3. เสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำตาล  จำนวน  1  ตัว

4. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นนูโว สีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  จำนวน  1  คัน

5. ไขควง ปากแบน  ด้ามสีเขียว  จำนวน  1  อัน

ในข้อหา “ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม “ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.140/2560  ลงวันที่  28 กุมภาพันธ์  2560 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 – 23 ก.พ. 2560 เวลากลางคืน ที่จินดาเฮาส์ เลขที่ 41 ถ.มูลเมือง  ซอย 6  ต.ศรีภูมิ  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 – 23 ก.พ. 2560 เวลากลางคืน ที่จินดาเฮาส์ เลขที่ 41 ถ.มูลเมือง  ซอย 6  ต.ศรีภูมิ  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่     ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบออลอินวัน(จอในตัว)ยี่ห้อ ACER จำนวน 1 เครื่อง ราคา 28,000  บาท (ของกลางลำดับที่ 1)คอมพิวเตอร์NETBOOK  ยี่ห้อ ACER จำนวน  1  เครื่อง ราคา 13,000 บาท (ของกลางลำดับที่ 2) และ เสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำตาล  จำนวน  1  ตัว (ของกลางลำดับที่ 3 ) เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นจึงได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้จากบุคคลพ้นโทษและนำแผนประทุษกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันประสานขอตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายเดินทางมาก่อเหตุและหลบหนีจากเทศบาลนครเชียงใหม่ รวบรวมพยานหลักฐานภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดส่งมอบพนักงานสอบสวนจนกระทั้งสามรถออกหมายจับคนร้ายตามภาพถ่ายตามหมายจับศาลจังหวัดที่ จ.140/2560  ลงวันที่  28 กุมภาพันธ์  2560  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำข้อมูลทรัพย์สินหายไปประสานกับร้านรับซื้อ – ขาย จำนำโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ให้ช่วยตรวจสอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากร้านรับซ่อม –  ซื้อ –ขายฝากคอมพิวเตอร์ แจ้งว่าทางร้านได้ตรวจสอบข้อมูลทรัพย์หายตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไว้พบว่ามีผู้นำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบออลอินวันยี่ห้อ ACER หมายเลขประจำเครื่อง S/N: DQB3RST00363000DB13000  พร้อมอุปกรณ์  ซึ่งตรงกันกับทรัพย์ที่ถูกคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้ โดยผู้ที่นำมาขายฝากให้กับทางร้านชื่อนายสาธิต  ไววาง   อายุ  31  ปี โดยขายฝากไว้จำนวน 1,300  บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามตัวผู้ต้องหาและจับได้  ณ บ้านทรัพย์ภูริ (ห้องพักรายวัน) ถ.ลำพูน – เชียงใหม่ ต.อุโมงค์  จ.เชียงใหม่  จากการสืบสวนขยายผล  นายสาธิต  ไววาง  รับว่าได้ก่อเหตุอีก  รวม  8  ครั้ง  ดังนี้

ครั้งที่ 1  เมื่อวันที่  23  ก.พ.60  เวลากลางคืน  ที่  จินดาเฮาส์   ต.ศรีภูมิ  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่ (คดีหลัก)

            ได้ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะยี่ห้อACER  จำนวน  1  เครื่อง NET BOOK   จำนวน  1  เครื่อง

            พ.ต.ต.ทนงศักดิ์  จันเจือแก้ว  พงส.

ครั้งที่  2

            เมื่อวันที่ 20  มี.ค.60  เวลากลางคืน  ที่ ก๊องสเตอร์เกสเฮาส์  ต.ศรีภูมิ  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

            ได้คอมพิวเตอร์NET BOOK  จำนวน  1  เครื่อง

ครั้งที่  3 เมื่อวันที่ 23  มี.ค.60  เวลากลางคืน  ที่ ตำบลป่าแดด  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

            ได้ TAPLET จำนวน  1  เครื่อง

            พ.ต.ท.ชยกร  ไชยพรม  พงส.

ครั้งที่  4  เมื่อวันที่ 16  ธ.ค.59  เวลากลางคืน  ที่ หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์  ต.ช้างคลาน  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

             ได้คอมพิวเตอร์ APPLE MAC MINI   จำนวน  1  เครื่อง   NOTE BOOK  HP  จำนวน  1  เครื่อง

             พ.ต.ท.วัชรพล  ยมเกิด  พงส.

ครั้งที่  5  เมื่อวันที่ 31  ธ.ค.59 เวลากลางคืน  ที่ บ้านเลขที่ 5/10  ถ.ศรีปิงเมือง  ต.หายยา  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่

             ได้ MAC BOOK AIR  จำนวน  1  เครื่อง

             ร.ต.อ.มนต์ริสา  บุญก๋ำ  พงส.ท้องที่  สภ.ภูพิงค์  จำนวน  1  ครั้ง

ครั้งที่ 1

            เมื่อ วันที่  1  มี.ค.60  เวลากลางคืน  ลักทรัพย์บ้านชาวต่างประเทศ   ได้เงิน สดจำนวน 27,000  บาท  นาฬิการาคาประมาณ  135,000 บาท

ท้องที่ สภ.ช้างเผือก  จำนวน  1  ครั้ง

ครั้งที่ 1

        จำวันเดือนปีไม่ได้  ก่อเหตุที่อพาร์ทเมนท์  ย่านเจ็ดยอด   จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

S__33308955

S__33308956

S__33308957

S__33308958

S__33308959 S__33308960

S__33308980

CNX NEWS เจาะข่าว  ตรงใจคุณ

รายงาน


สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับสาวทอมหลอกเหยื่อขอความช่วยเหลือพอติดกับแอบฉกทรัพย์แล้วหลบหนี

24 พ.ย. 2016
563
Spread the love

S__30490759

สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับสาวทอมหลอกเหยื่อขอความช่วยเหลือพอติดกับแอบฉกทรัพย์แล้วหลบหนี

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ,  พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ , นำโดย พ.ต.ต.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.อนันต์ พรหมมานอก , ด.ต.ศักดา ถุงเงิน , ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธ์ , ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา , ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ , จ.ส.ต.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง และ ส.ต.ต.เสถียร เปาแก้ว ตำรวจชุดจับกุม

ได้หาข่าวติดตามจับกุม น.ส.สุพรรษา หรือติ๊ก หน่อพรหม อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 266 ม.1 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ อะมอเร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน งพน-796 เชียงใหม่ จำนวน 1 คันเสื้อคลุมกันหนาว ยี่ห้อ adidas สีดำ ตัวอักษรสีทอง(หน้าอกด้านซ้าย) มีแถบสีทอง 3 แถบด้านหลัง จำนวน 1 ตัวรองเท้าแตะ ยี่ห้อ ADDA สีน้ำตาล จำนวน 1 คู่ เงินสด เป็นธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 700 บาท

ในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 11.30 น. หลังอาคารเอไอเอส(เดิม) ซอยกำแพงดิน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครพิงค์ ว่ามีเหตุคนร้ายเป็นหญิง  จำนวน 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดที่หลังอาคารเอไอเอส(เดิม) ซอยกำแพงดิน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2559 เวลาประมาณ 11.30 น. จึงออกตรวจที่เกิดเหตุ พบนายอะโลผะ วาสีอนุรักษ์ อายุ 66 ปี (ผู้เสียหาย) สอบถามแล้ววันเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น. ผู้เสียหายเดินทางจากบ้านพักมาถึงตลาดวโรรส แล้วเข้าไปถอนเงินสด จำนวน 8,000 บาท ในธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีนครพิงค์ แล้วเอาเงินใส่ในกระเป๋าสะพาย(ย่าม) เสร็จแล้วกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ได้พบกับหญิงวัยรุ่นไม่ทราบชื่อคนหนึ่ง ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สวมหมวกนิรภัย เข้ามาจอดรถแล้วขอความช่วยเหลือ เนื่องจากยางรถแบน จอดอยู่ไม่ไกลจากนี้ ให้ผู้เสียหายซ้อนรถไปด้วย แล้วผู้เสียหายก็ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ของหญิงคนนั้นมาถึงบริเวณด้านหลังอาคารเอไอเอส(เดิม) ซอยกำแพงดิน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้วได้ใช้มือฉกฉวยเอากระเป๋าเงินใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย(ย่าม)ซึ่งผู้เสียหายคล้องคอไว้ และเปิดซิบกระเป๋าเงินใบเล็กหยิบเอาเงิน จำนวน 8,000 บาท พร้อมบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

                หลังจากรับแจ้งแล้วเจ้าพนักงานตำรวจฯได้สืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดแนวทางการสืบสวนจากการติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบตำหนิรูปพรรณของคนร้าย คือเป็นหญิงวัยรุ่น จำนวน 1 คน สวมหมวกนิรภัยสีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ , สวมกางเกงขายาวสีดำ , รองเท้าแตะ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ อะมอเร่ สีดำ  หลบหนีมาตามคูเมืองด้านนอก เข้าสู่ถนนสุเทพ , เข้าไปในโรงพยาบาลมหาราชฯ , ออกทางคูเมืองด้านนอก(วัดปันเส่า)แล้วเข้าไปย่านสันติธรรม , เข้าตลาดธานินทร์ด้านหลัง จึงได้กระจายกำลังทำการตรวจสอบบริเวณที่คนร้ายดังกล่าวมักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน (ลักษณะหาเหยื่อบริเวณโรงพยาลและตลาด) จนกระทั่งวันนี้ (24 พ.ย. 59) พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ อะมอเร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน งพน-796 เชียงใหม่ คล้ายคลึงกับรถจักรยานยนต์ของคนร้ายในคดีนี้จอดอยู่บริเวณภายในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ บริเวณด้านหลังศูนย์ศรีพัฒน์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีหญิงวัยรุ่นลักษณะเป็นทอมบอยคร่อมรถอยู่ สวมเสื้อคลุมและรองเท้าคล้ายกับคนร้าย เจ้าพนักงานตำรวจฯจึงได้แสดงตัวและแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอทำการตรวจสอบ ทันใดนั้นหญิงวัยรุ่นดังกล่าวได้แสดงอาการตกใจ มีท่าทางพิรุธต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังว่า  น.ส.สุพรรษา หรือติ๊ก หน่อพรหม อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 266 ม.1 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เจ้าพนักงานตำรวจฯได้เล่าข้อเท็จจริงในคดีนี้ให้ น.ส.สุพรรษาฯฟัง และรับกับตำรวจว่าตนเองเป็นคนใช้รถจักรยานยนต์(ของกลางรายการที่ 1)ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายในคดีนี้ ที่หลังอาคารเอไอเอสเดิม ซอยกำแพงดิน(ที่เกิดเหตุ) เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2559 เวลาประมาณ 11.30 น. อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ ประกอบกับมีอายุมากแล้ว ฉกฉวยเอาเงินในกระเป๋าซิบของผู้เสียหายที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย(ย่าม)พร้อมบัตรประชาชนผู้เสียหายติดมาด้วยและขับขี่รถจักรยานยนต์(ของกลางรายการที่ 1)หลบหนีไป เงินสดที่ได้มาเอาไปใช้จ่าย คงเหลือเพียง 700 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

S__30490760

S__30490765

S__30490766

S__30490767

S__30490799

S__30490800

S__30490801

S__30490802

S__30490803

S__30490804

S__30490805

S__30490806

CNX NEWS เจาะข่าว  ตรงใจคุณ

รายงาน


สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับหัวขโมยตระเวรลักเครื่องมือก่อสร้างทั่วเมืองเชียงใหม่

05 ต.ค. 2016
563
Spread the love

60171

 สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับหัวขโมยตระเวรลักเครื่องมือก่อสร้างทั่วเมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 4  ตุลาคม 2559  เวลา  01.00 น.โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ,  พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ , นำโดย พ.ต.ต.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส.ฯ , ร.ต.ท.อนันต์ พรหมมานอก ,     ด.ต.ศักดา ถุงเงิน , ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธ์ , ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา , ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ ,จ.ส.ต.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง และ ส.ต.ต.เสถียร  เปาแก้ว

ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชื่อ นายปรีดา  หรือเคียง  กฤษณวิภาคพร อายุ 43 ปี ที่อยู่  89  หมู่  3  ต.ผาจุก  อ.เมืองอุตรดิตถ์  จ.อุตรดิตถ์

พร้อมด้วยของกลาง

1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิรุ่นคริสตัลสีแดง ทะเบียน 5 ข 4673 เชียงใหม่  จำนวน  1  คัน

2.กบใสไม้ไฟ้ฟ้า            จำนวน  1  ตัว

3.เลื่อยวงเดือน             จำนวน 1 ตัว

4.สว่านไฟฟ้า               จำนวน 2 ตัว

5.เร้าเตอร์ ไฟฟ้า           จำนวน 2  ตัว

6.เครื่องตัดกระเบื้อง      จำนวน  1  ตัว

7.เสื้อโปโลคอปกสีชมพูแถบสีกรมท่า   จำนวน 1 ตัว     (ผู้ถูกจับสวมใส่ไปก่อเหตุ)

8.หมวกผ้าสีเขียวลายพราง               จำนวน  1  ใบ (ผู้ถูกจับใส่ไปก่อเหตุ)

โดยกล่าวหาว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ผู้ถูกจับ  ได้ลักเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะขับหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฯสามารถติดตามผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง

อันเป็นความผิดฐาน“ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ”

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2559  เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ชัยกร  ไชยพรม ร้อยเวร  ว่ามีเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน    ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะก่อเหตุลักทรัพย์ของนายมาโนชญ์  อุณหพัฒนา  อายุ  36  ปี  ที่อยู่  38/2  หมู่  10  ต.ห้วยใคร้  อ.แม่สาย  จ.เชียงราย  และนายSAN LU อายุ  34  ปี  สัญชาติเมียนมาร์  มีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการประกอบด้วยกบใสไม้ไฟ้ฟ้า  จำนวน  1  ตัว เลื่อยวงเดือน  จำนวน 1 ตัว สว่านไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว เราเตอร์ ไฟฟ้า  จำนวน 2  ตัว เครื่องตัดกระเบื้องจำนวน 1 ตัว และอุปกรณ์งานก่อสร้างจำนวน 1 ชุด    เหตุเกิดที่ริมถนนพระปกเกล้าซอย 8  ต.พระสิงห์  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่  (ผู้เสียหายเก็บของทั้งหมดไว้หลังกะบะรถ) เหตุเกิดวันที่ 1 ต.ค.2559 เวลาประมาณ  10.15  น. (รายละเอียดตามรายงาน สส.2ที่แนบมาด้วย) เจ้าหน้าที่ตำรวจฯจึงเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้จากทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป  และทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายเดินทางก่อนและหลังก่อเหตุ  โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุสามารถบันทึกเหตุการณ์ก่อนก่อเหตุขณะก่อเหตุและหลังก่อเหตุของคนร้ายไว้ได้  พบว่าคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิรุ่นคริสตัลสีแดง สภาพเก่าติดแผ่นป้ายทะเบียน 5 ข 4673  เชียงใหม่ สวมเสื้อคอปกสีชมพูแถบดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาลสวมหมวกผ้าสีเขียวลายพราง  จากการตรวจสอบพบว่าหลังคนร้ายลักทรัพย์ได้ขี่รถจักรยานยนต์นำเอาทรัพย์ที่ลักมา ขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าถนนราชภาคินัย ผ่านแยกอโนดาต – ถนนบำรุงบุรี เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังออกสืบสวนตามหอพักในชุมชนดังกล่าว ต่อมาในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าพบชายวัยกลางคนมีลักษณะรูปร่างตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ของผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณและหมายเลขทะเบียนตรงกันกับรถจักรยานยนต์ของคนร้ายผ่านโค้งคนชราเข้าสู่ถนนมูลเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งนำกำลังเดินทางไปทำการตรวจสอบ ต่อมาพบชายคนดังกล่าวขี่รถผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณถนนมูลเมืองหน้าตลาดสมเพชร ในมือข้างซ้ายถือเลื่อยไฟฟ้า จำนวน 1 ตัว มีสายไฟสีดำม้วนเป็นวงกลมยาวประมาณ 10  เมตร สะพายไว้ที่แขนข้างซ้ายและมีเครื่องตัดกระเบื้องสีเขียวอยู่ในถุงพลาสติกใสคล้องไว้ที่แฮนด์รถด้านซ้ายอีกจำนวน 1 ตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สะกดรอยติดตามไป  ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดหน้าร้านรับซื้อของเก่า(สถานที่จับกุม)นำเลื่อยไฟฟ้าสายไฟและ   เครื่องตัดกระเบื้อง ไปเสนอขายแต่ทางร้านไม่รับซื้อขณะกลับมาที่รถ  จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ เพื่อสอบถาม เมื่อนายปรีดา กฤษณวิภาคพร (ทราบชื่อภายหลังการจับกุม) ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้แสดงอาการตกใจพยายามที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีแต่ไม่สามารถหลบหนีไปได้จากการตรวจค้น  นายปรีดา ฯ แจ้งว่าเลื่อยไฟฟ้า สายไฟและเครื่องตัดกระเบื้องสีเขียว เป็นของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวไปค้นบ้านพัก ไม่มีเลขที่ หมู่ 7  บ้านป่าตัน ต.ดอนแก้ว อ.สารภี  จ.เชียงใหม่         ผลการตรวจค้นพบของกลางลำดับที่ 1,2,3,7,8  และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามถึงที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวที่ตรวจพบในห้องนอนของนายปรีดา ฯ แจ้งว่าตนเองเป็นผู้ลักเอามาจากผู้เสียหายหลายรายแล้วนำมาซุกซ่อนไว้  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายปรีดา ฯ พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้มาที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่   ต่อมาได้มีนายSAN LU อายุ  34  ปี  ผู้เสียหายเดินทางมาที่ห้องสืบสวน     สภ.เมืองเชียงใหม่  ชี้ยืนยันกบใสไม้ไฟฟ้า  เลื่อยวงเดือน  สว่านไฟฟ้าเร้าเตอร์ ไฟฟ้า  ว่าเป็นของตนเองที่ถูกคนร้ายลักเอาไป  เมื่อนายปรีดา ฯ ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทราบรายละเอียดในการกระทำผิดของนายปรีดา ฯ และพบของกลางที่ได้จากการกระทำผิดหมดแล้วจึงรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฯว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในคดีนี้ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนขยายผลนายปรีดา  กฤษณวิภาคพร รับว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ของผู้เสียหายอีกรวม 7  รายดังนี้

สภ.เมืองเชียงใหม่  5   ราย

รายที่ 1  วันที่ 1  ต.ค.2559 เวลากลางวัน   ริมถนนพระปกเกล้าซ. 8  ต.พระสิงห์  อ.เมือง  จว.เชียงใหม่ คดีหลัก

รายที่ 2  วันที่ 1  ต.ค.2559 เวลากลางวัน  ริมถนนราชดำเนิน(หน้านิยมพานิช) ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่

รายที่ 3  ประมาณ ก.ค.59  เวลากลางวันที่ ริมถนนสามล้านข้างวัดพระสิงห์  ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่

รายที่ 4  ประมาณ ก.ค.59  เวลากลางวัน   ที่ลานจอดรถห้างโลตัส ต.ป่าแดด  อ.เมือง  จว.เชียงใหม่

รายที่ 5 ประมาณ  ก.ค.59  เวลากลางวัน  ริมถนนเชียงใหม่-หางดง(ขาเข้าเมือง)ข้างเซนทรัลแอร์พอร์ต)

สภ.แม่ปิง   1   ราย

รายที่ 1  วันที่ 3 ต.ค.59  เวลากลางวัน  ริมถนนเชิงสะพานเม็งราย(หน้าโรงพยาบาลราชเวช)

 

60184

60185

60186

60187

IMG_6770

IMG_6771

IMG_6774

IMG_6775

IMG_6777

S__28409949

CNX NEWS  เจาะข่าว  ตรงใจคุณ

รายงาน


สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับแล้วคนร้ายปล้นทรัพย์ ท่าแพซอย 3

23 ก.ค. 2016
563
Spread the love

13690672_1049020438518544_8905126431578729922_n

สืบสวนเมืองเชียงใหม่จับแล้วคนร้ายปล้นทรัพย์ ท่าแพซอย 3

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 โดยการอำนวยการของพล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต รอง ผบก.ฯ,พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ต.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.อ.ธนัช ชัยสาร,ร.ต.อ.อนันต์ คำมี,ร.ต.อ.วิทยา ใจคำ,ร.ต.อ.ชัยพล ชัยชนะ,ร.ต.ท.อนันต์ พรมมานอก,รอง สว.สส.ฯ,พร้อมกำลังได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม
1. นายเอกพลหรืออ๊อด ใจตุ่น อายุ 20 ปี ที่อยู่ 36/4 หมู่ที่ 6 ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่
2. นายจักรพันธ์หรือติ่ง ทองอินทร์ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 119 หมู่ที่ 6 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
3. นายไพรัชหรืออั้น อนุวงค์ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 74 หมู่ที่ 6 ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ในข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์หรือรับของโจร”

พร้อมด้วยของกลาง
1. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง แกแล็คซี่ ดอร์ สีเทา จำนวน 1 เครื่อง
2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ รุ่นฮายาเต้ สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (หมายทะเบียน งบต-805 เชียงใหม่) จำนวน 1 คัน
3. เสื้อและกางเกง ชุดแต่งกายที่ผู้ถูกจับแต่ละคนใส่ในวันที่ก่อเหตุ

 

ด้วยเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีเกิดเหตุทำร้ายร่างกายฯ ที่หน้าโรงแรมบูติคฯ ตั้งอยู่ในซอย 3 ถนนท่าแพ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จว.เชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น. ของวันที่ 17 ก.ค. 2559 โดยมีผู้เสียหายคือพนักงานของทางโรงแรมที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และสอบถามพยาน ทราบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาลักเอาหมวกนิรภัยที่วางไว้บนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย แต่ว่าผู้เสียหายสังเกตเห็นจึงได้ไปขอคืน แล้วคนร้ายทั้งสามคนก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นไม่นานย้อนกลับมาหาผู้เสียหายบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง แล้วรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจนหมดสติ และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งดำเนินการตามโครงการ POLICE EYES ที่ผู้บังคับบัญชาได้วางไว้ โดยการตรวจสอบกล้องวีดิโอวงจรปิด ทำให้ทราบถึงลักษณะตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายเรื่อยมา โดยได้มีการวางกำลังตามจุดต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุลักษณะดังกล่าว
จนกระทั้งวันที่ 22 ก.ค. 2559 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชายสามคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น สอบถาม จนในที่สุดทั้งสามคนให้การรับว่าเป็นผู้ที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายและเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจริง โดยทั้งสามคนได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์ของผู้เสียหาย และชุดแต่งกายที่ใส่ในวันก่อเหตุไว้เป็นของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมจับกุมตัว จากการสอบสวนทราบว่าในก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนั้น ทั้งสามคนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวน เพื่อเตรียมจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งสามพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินต่อไป

 

13692510_1049020418518546_676120569585038529_n

13710003_1049020318518556_8559045232674220831_n

13754169_1049020461851875_3119711658098849054_n

13754434_1049020375185217_8827931025019510385_n

13782108_1049020398518548_1919436816751198788_n

CNX NEWS เจาะข่าว  ตรงใจคุณ