วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

สืบภาค 5 จับเครือข่าย ขายบริการทางเพศผ่านสังคมออนไลน์

09 มี.ค. 2015
381
Spread the love

สืบภาค 5 จับเครือข่าย ขายบริการทางเพศผ่านสังคมออนไลน์

DSC_0068

 

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 10.00 น. ณ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้แถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหาเป็นนายหน้าจัดหาหญิงเพื่อบริการทางเพศหลังจาก ที่เจ้าหน้าที่ ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียง ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาตีสนิท และอ้างว่าสามารถติดต่อหาหญิงบริการทางเพศที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีให้ลูกค้าได้ โดยให้ ID Line ใช้ชื่อ Ideazx พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ในการติดต่อซื้อบริการทางเพศดังกล่าว

 

ทาง พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 จึงไดสั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 พร้อมทีมสืบสวนได้เข้าทำการหาข่าวกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 58 ที่ผ่านมาได้ทำการล่อซื้อ เด็กสาวมาให้บริการทางเพศในโรงแรมชื่อดังในย่านใจกลางเมืองเชียงใหม่ โดยตกลงค่าใช้บริการคนละ  2,000 บาท จำนวน 3 คน จาก นางสาว เดียร์ ทราบชื่อภายหลัง คือนางสาวกนกวรรณ บุญโต ซึ่งเป็นนายหน้าจัดหา อายุ 20 ปี ซึ่งนางสาวเดียร์ ก็ได้เกิดการหวาดระแวงไม่ยอมนำหญิงสาวมาส่งด้วยตัวเอง โดยแจ้งมาทางไลน์ให้ฝากเงินค่าตัวมากับหญิงสาวที่ให้บริการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการซ้อนแผนโดยให้หญิงสาวนำเงินที่ล่อซื้อไปมอบให้ที่หอพักย่านสันติธรรมฯ และสามารถจับกุมตัวไว้ได้ โดยกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีซึ่งกระทำต่อบุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามและค้ามนุษย์” ซึ่งนางสาวเดียร์ก็ให้การว่า ทำลักษณะนี้มาประมาณ 2 เดือนแต่ไมได้ทำทุกวัน และส่วนมากหญิงสาวที่ตนเองนำมาก็จะอ้างว่าอายุเกิน 18ปีแล้ว เพื่อหารายได้พิเศษ

 

โดยในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขยายผลการจับกุมผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มพร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 1 กรัม ยาบ้าจำนวน 10 เม็ด และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 6 นัด ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกลางเมืองเชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหรือไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมตัวนายธีรศักดิ์ หรือเก๋ ดวงผ่อง และนายพัฒน์พงษ์ หรือเบนซ์ วงรค์แสนใจ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 7 เม็ด ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้สถานศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวหา ว่า “ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฏหมาย”ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเก๋ฯ และนายเบนซ์ฯ มาทำการขยายผล ทำให้สามารถจับกุมตัวนายเอกชนหรือต้อม วิริยา พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลตรวจค้นเพิ่มเติมจากนายเอ็ม และนางสาวแต้ม ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านั้น ได้ยาบ้าเพิ่มอีก 2,000 กว่าเม็ด รวมที่จับกุมได้ก่อนหน้านั้นจำนวนทั้งสิ้น 3,000 เม็ด จับกุมได้ที่ห้อพักแห่งหนึ่งใกล้สถานศึกษาชื่อดังในเชียงใหม่ เช่นกัน โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเรายังทราบอีกว่า ขบวนการค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์ ของกลุ่มพวกนี้เกี่ยวข้องกัน มีการนำยาบ้ามาจำหน่ายแลกกับการล่อลวงหญิงเยาวชนมาขายบริการ หรือไม่ก็นำเงินที่ได้จากการจัดหาหญิงสาวค้าประเวณี มาซื้อยาบ้ามาเสพติดและจำหน่ายเป็นทอด ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมขบวนการพวกนี้ต่อไป สำหรับยาบ้าที่ยึดมาได้ครั้งนี้ น่าจะเป็นยาบ้ารุ่นใหม่ เพราะตัวยาไม่มีสัญญาลักษณ์หรือตราประทับที่ตัวยาแต่อย่างใด มีสีชมพู น่าเชื่อว่า น่าจะผลิตในไทย ซึ่งจะได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ ป.ป.ส.ภาค 5 ทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

 

จากการสืบสวนขยายผลจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า เครือข่ายการค้าประเวณีซึ่งกระทำต่อเด็กหรือเยาวชน ในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือ ทั้งยังมีความเกี่ยวพันกับผู้เสพยาเสพติดฯ ซึ่งจะพัฒนาเป็นผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในอนาคต โดยสาเหตุที่เด็กและเยาวชนหันมาแสวงหารายได้จากการค้าประเวณีนั้น อาจเกิดจากการได้รับตัวอย่างที่ผิดที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์และทำตามโดยคิดว่าเป็นค่านิยมปกติในปัจจุบันหรือ ส่วนหนึ่งต้องการการแลกเปลี่ยนกับยาเสพติดก็เป็นได้ จึงฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลใส่ใจบุตรหลานของท่าน ให้ห่างไกลจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและยาเสพติด ต่อไป

 

 

 

รพิรัตน์ สุขแยง รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ