สิทธิควรรู้..สำหรับผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม

สำนักงาน กสทช.เผยแพร่สิทธิควรรู้แก่ผู้บริโภคกิจการโทรคมนาคมเชียงใหม่

สำนักงาน กสทช.จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “สิทธิควรรู้..สำหรับผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม” แก่ผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจง 6 เรื่องควรรู้ ทั้งการกำหนดระยะเวลาใช้งานในระบบเติมเงิน ปัญหาจากการโรมมิ่ง  และปัญหา SMS หลอกลวง

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว  นายพิทยาพล จันทนะสาโร ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เป็นประธานในการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “สิทธิควรรู้..สำหรับผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม”แก่ผู้แทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมสิทธิในการตระหนักรู้ในเรื่องสิทธิของผู้บริโภคในการใช้บริการโทรคมนาคม

นายชัยยุทธ มังศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมมิให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบกิจการ โดยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ข้อกำหนด  และกฏระเบียบต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์และอินเตอร์เนต รวมทั้งการรับและจัดการเรื่องร้องเรียน โดยในปีนี้ พบว่าในเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2556 มี 4 ปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนมากที่สุด ได้แก่ เรื่องมาตรฐานการให้บริการ (2,610 เรื่อง) ปัญหาการถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ (2,109 เรื่อง) การคิดค่าบริการผิดพลาด (1,995 เรื่อง) และบริการเสริม (1,046 เรื่อง)

ในการอบรมเชิงปฏิบัติการมีการเสวนา “6 เรื่องควรรู้…สำหรับผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม” เพื่อให้ข้อมูลประเด็นปัยหาสำคัญที่พบจากการใช้บริการ ประกอบด้วย เรื่องโทรศัพท์ระบบเติมเงิน โดยขณะนี้ การเติมเงินทุกมูลค่า ใช้งานได้ขั้นต่ำ 30 วัน และสามารถสะสมวันใช้งานสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 365 วัน เรื่องค่าบริการโทรศัพท์มือถือประเภทเสียงภายในประเทศ ที่สำนักงาน กสทช.กำหนดว่าต้องไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที (ใช้บังคับกับ AIS และ DTAC เท่านั้น) เรื่องค่าบริการเอสเอ็มเอส (SMS) เช่น ดูดวง ข่าวรายวัน ฯลฯ ทั้งที่ไม่เคยสมัครใช้บริการสามารถร้องเรียนได้ เรื่องโปรโมชั่นหรือแพคเกจสำหรับ 3G บนคลื่น 2100 MHz ต้องลดราคา 15% เรื่องการสิ้นสุดสัมปทานทรูมูฟและ DPC ที่สิ้นสุดสัมปทานในวันที่ 15 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ซี่งสำนักงาน กสทช.ได้ร่วมกับผู้ให้บริการมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคชั่วคราวโดยการยืดระยะเวลาใช้งานไปอีก 1 ปี เพื่อให้ผู้บริโภคมีเวลาในการย้ายเลขหมายไปสู่ระบบอื่นๆ ที่ยังเปิดใช้บริการ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาจากการใช้บริการโรมมิ่งทั้งในและต่างประเทศ ที่ส่งผลให้ผู้รับบริการต้องจ่ายค่าใช้จ่ายหลักแสนหรือล้านบาท โดยเฉพาะจากการใช้บริการข้อมูล (DATA) ซึ่งสำนักงาน กสทช.ให้ข้อแนะนำว่า ผู้บริโภคควรศึกษารายละเอียดของการใช้งานและค่าใช้จ่ายในการโรมมิ่งอย่างละเอียด เลือกเปิดใช้บริการเท่าที่จำเป็น เช่น เปิดเฉพาะบริการโทรเข้าโทรออก (VOICE) หรือตั้งค่าปิดการใช้งาน DATA ของโทรศัพท์ และปิดการโรมมิ่งเมื่อเดินทางกลับจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาโทรศัพท์จับสัญญาณจากต่างประเทศโดยอัตโนมัติเมื่อมีการใช้งานโทรศัพท์บริเวณชายแดนที่อาจมีสัญญาณจากผู้ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้านที่แรงกว่า ทำให้โทรศัพท์เลือกใช้สัญญาณนั้นและคิดค่าบริการแบบโรมมิ่งทันทีแม้จะใช้งานอยู๋ในฝั่งไทย

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการด้านโทรคมนาคม สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงาน กสทช. หมายเลขโทรศัพท์ 1200 กด 1 (โทรฟรี) ร้องเรียนด้วยตัวเองหรือทางจดหมาย เว็บไซต์ (http:/tcb.nbtc.go.th) โทรศัพท์ 0-2634-6000 โทรสาร 0-2279-0251 และอีเมล์ tcp.service@nbtc.go.th และ tcp.service@hotmail.com