วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

สนง.เศรษฐกิจการคลังจัดเวทีสัมมนา FPO Forum ชูประเด็นการท่องเที่ยว

25 ม.ค. 2014
597
Spread the love

สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจัดเวทีสัมมนา

วิชาการ FPO Forum ชูประเด็นการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจล้านนา

สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจัดสัมมนาวิชาการ สศค.สัญจร เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับภาครัฐ เอกชนในภูมิภาค โดยปีนี้จัดภายใต้หัวข้อ “การท่องเที่ยว : ศูนย์กลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจล้านนา” ด้านนักวิชาการชี้ทิศทางการท่องเที่ยวเชียงใหม่ขยายตัวก้าวกระโดดในกลุ่มตลาดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และรัสเซีย เน้นควรพัฒนากลุ่มเป้าหมายตลาด MICE

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นประธานในสัมมนาวิชาการเวทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (FPO Forum) ภายใต้โครงการขยายบทบาทสำนักงานเศรษฐกิจการคลังส่วนภูมิภาค โดยมีนายโชคดี อมรวัฒน์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ณ ห้องเชียงใหม่  ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้ดำเนินโครงการ  สศค.สู่ภูมิภาคโดยการเปิดเวทีสัมนาวิชาการที่เรียกว่า “FPO Forum” มาตั้งตี่ปี พ.ศ.2549 โดยจัดขึ้นปีละ 4 ครั้งตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจและนโยบายเศรษฐกิจที่กระทรวงการคลังดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกันเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกับสาธารณชนทั่วประเทศ โดยหัวข้อการสัมมนาจะมีการสลับสับเปลี่ยนกันไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์หรือประเด็นท่สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่ที่จัดสัมมนา ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้เป็นการจัดที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งที่ 4 โดยจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การท่องเที่ยว : ศูนย์กลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจล้านนา”เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของภาคเหนือและเชื่อมโยงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “นวัตกรรมการเข้าถึงบริการด้านการเงิน” คือการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในระบบสถาบันการเงิน เพื่อเป็นแนวทางในการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำแก่ประชาชนทุกภาคส่วนให้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น

นายชาญชัย เมฆศิริ หัวหน้าสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ ตัวแทนจากภาควิชาการ กล่าวว่า ทิศทางการท่องเที่ยวของไทยในอนาคต จะได้รับผลกระทบจากการอิ่มตัวของตลาดหลัก เช่น อังกฤษ สแกนดิเนเวีย เยอรมนี อเมริกา สเปน อิตาลี ออสเตรเลีย และอิหร่าน เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกัน มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มตลาดใหม่ ได้แก่ ตลาดจีน อินเดีย และรัสเซีย นอกจากนี้ การเปิดประชาคมอาเซียนยังเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาค แต่ก็จะเพิ่มการแข่งขันระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันเอง ซึ่งอาจทำให้ไทยเสีย Market Share ในอนาคตได้ ็ โดยกลุ่มเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในอนาคตควรเพิ่มในส่วนของตลาดผู้มาประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ MICE ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีการจับจ่ายสูง โดยนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้จะมุ่งให้ความสนใจกับรูปแบบการท่องเที่ยวแบบ Mass Tourism คือการท่องเที่ยวตามกระแสนิยม ให้ความสำคัญกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเช่น ถนนคนเดินกลางเมืองเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแบบ Natural Base Tourism คือการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่เน้นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotpurism) เช่น หมู่บ้านอนุรักษ์แม่กำปอง อำเภอแม่ออน การดูนกบนดอยผ้าห่มปก การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา (Geotourism) เช่น ถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาว หรือการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agrotourism) เช่น โครงการท่องเที่ยว “ปิดทองหลังพระ” การท่องเที่ยวโครงการหลวงและโครงการในพระราชดำริ รวมถึงการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม ทัศนศึกษาและศาสนา การผจญภัย เป็นต้น

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน