ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าปฏิบัติการทำฝนหลวงที่เชียงใหม่เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กพ.นี้ หลังจากพบว่ามีโอกาสที่จะสามารถทำฝนได้ผลในช่วง วันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ นี้
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าปฏิบัติการทำฝนหลวงที่เชียงใหม่เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากวิเคราะห์แล้วพบว่ามีโอกาสที่จะสามารถทำฝนได้ผลในช่วง วันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ นี้ โดยหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงเกิดความเสียหายกับผลผลิตด้านการเกษตร
นายอนุภาพ ภววัฒนานุสรณ์ รักษาการตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้จัดชุดเฝ้าระวังเพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ และติดตามวิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อทำฝน ทำให้ทราบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือบางสถานีได้เข้าสู่ค่าวิกฤต เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 และจากการวิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อการทำฝน พบว่าสามารถที่จะทำฝนได้ในช่วงระหว่างวันที่ 18 – 23 กุมภาพันธ์ 2556 ดังนั้น ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจึงได้ขออนุมัติจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ
ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อทำการติดตามความเดือดร้อนต้องการฝนของประชาชน และวิเคราะห์อากาศเพื่อการทำฝนหลวงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการรักษาการตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวว่า จากการดำเนินการของชุดเฝ้าระวัง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ทำให้ทราบว่าขณะนี้คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศจากภาวะหมอกควันได้เข้าสู่ค่าวิกฤต 2 แห่ง จากสถานีวัด 14 แห่ง ที่ระดับ 127 และ 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่สถานีอุตุนิยมจังหวัดแพร่ และสถานีการประปาแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ตามลำดับ เพื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา และจากการวิเคราะห์อากาศเพื่อการทำฝนหลวงของชุดเฝ้าระวัง พบว่ามีโอกาสที่จะสามารถทำฝนได้ผลในช่วง วันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2556
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจึงได้เรียกหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วมาปฏิบัติการทำฝน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป และในช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่อยู่ระหว่างที่เกษตรกรกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ หอม กระเทียม และสตอเบอรี่ ดังนั้น จึงได้ประสานงานกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการตัดสินใจปฏิบัติการทำฝนหลวง ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วพบว่าพื้นที่ใดเสี่ยงต่อการได้รับความเสียหาย ศูนย์ ฯ จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติการทำฝนในพื้นที่ดังกล่าวรักษาการตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวเพิ่มเติม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว ได้รับการอนุมัติในหลักการจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้จัดตั้งขึ้นที่สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2556 เป็นต้นมา ซึ่งพร้อมเคลื่อนที่ไปทำฝนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือขึ้น ณ หน้าท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
โดยได้ขออนุมัติจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วเพื่อติดตามความเดือดร้อนต้องการฝนของประชาชน และวิเคราะห์อากาศเพื่อการทำฝนหลวงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 0-5327-4647, 0-5327-5051 และ 08-3318-6421โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดารที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งซึ่งมีสาเหตุมาจากความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝนเริ่มต้นล่าช้าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติหรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝน และจากพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอนับตั้งแต่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ตราบจนทุกวันนี้ ทรงพบเห็นว่าภาวะแห้งแล้งได้ทวีความถี่ และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นตามลำดับ เพราะนอกจากความผันแปรและคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติแล้ว การตัดไม้ทำลายป่า ยังเป็นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในทุกภาคของประเทศ สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจโดยรวมของชาติเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี
ขอบคุณภาพและข่าวจาก http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=130219132724
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน