ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมประเทศเมียนมาร์

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นางอุบลรัตน์ คงกระพันธ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย รัฐคะฉิ่น เมืองพะโค และรัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักสุด หลังจากเกิดฝนตกหนักนานนับเดือน ในพื้นที่ 12 รัฐ จากทั้งหมด 14 รัฐ โดยมีรายงานว่า พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 1,300 ไร่  ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นพบแล้วอย่างน้อย 27 ราย ชาวบ้านอีกนับหลายหมื่นคน ต้องกลายเป็นที่ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติแถลงว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงบรรเทาทุกข์และย้ายถิ่นฐานของพม่า ว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในขณะนี้  156,000 คน แต่มีแนวโน้มที่ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นสูงมาก เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ทีมประเมินสถานการณ์ยังเข้าไม่ถึง และยังระบุเพิ่มเติมอีกว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเป็นตัวเลขประเมินที่ต่ำเกินไป เช่นเดียวกับทางด้านสภากาชาดพม่าที่ระบุว่า บ้านเรือนจำนวน 300 หลังในรัฐยะไข่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายและประชาชนประมาณ 1,500 คน ต้องอพยพไปยังศูนย์หลบภัย  ดังนั้น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้เปิดรับบริจาคเงินเพื่อรวบรวมส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขอเชิญชวนผู้ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแจ้งความประสงค์ร่วมบริจาคเงินได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หรือโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ 983-5-96381-9 ชื่อบัญชี “เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ประเทศพม่า” เพื่อจะได้ส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ต่อไป หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 053-112592 หรือสายด่วน 1567

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการดำเนินงาน ที่ผ่านมา

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการดำเนินงานกับสถิติเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ เพื่อให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 เวลา 10.00 น. นางสาววิราชินี คำชุมภู หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ  ได้เข้าร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์โดยแถลงในวาระ “การดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่”  ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

นางสาววิราชินี คำชุมภู หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ กล่าวว่า ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉับที่ 96/2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัดและให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัดสามมารถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน และประชาชนได้รับความพึงพอใจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นในจังหวัดเพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษารับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมมาตร 32 แห่งพระราชฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2556 โดยจัดตั้งขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่อื่นตามที่เห็นสมควนนั้น  จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 3048/2557 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยบูรณาการความร่วมมอจากส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาร่วมดำเนินงาน และได้เปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557  นอกจากรับเรื่องร้องเรื่องร้องทุกข์ แล้ว ยังได้นำงานบริการของหน่วยงานต่างๆ มาร่วมให้บริการแก่ประชาชนในรูปแบบเบ็ดเสร็จในแห่งเดียว (One Stop Service) อาทิ บริการชำระค่าไฟฟ้าและขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าส่วนภูมภาคเขต 2 บริการชำระภาษีรถยนต์และรถจักยานยนต์ โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ บริการรับแจ้งความ รับแจ้งเบาะแส โดยสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และบริการข้อมูลข่าวสารทั่วไป โดยสำนักงานสถิติจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

นางสาววิราชินี คำชุมภู หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ เพื่อให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จังหวัดเชียงใหม่จึงได้เปิดสายด่วน Call Center 1567 เพื่อรับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 กันยายน 2557 ตลอดจนจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้อำเภอจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ โดยใช้ศูนย์อำนวยความเป็นธรรมของอำเภอ  เป็นศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยพิจารณานำรูปแบบของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เป็นแนวทางในการดำเนินการ และสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่งให้เป็นรูปธรรมภายในเดือน กันยายน พ.ศ. 2557 พร้อมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างทั่วถึง สำหรับสถิติเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ไดรับระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 สิงหาคม 2557 (ข้อมูลถึง ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2557) จำนวน 328 เรื่อง โดยผ่านช่องทางการร้องเรียนหลัก 2 ช่องทาง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 177 เรื่อง และศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 33 จำนวน 151 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด 3 เรื่อง ลำดับแรกได้แก่ เรื่องการบุกรุก ครอบครองพื้นที่ป่า จำนวน 108 เรื่อง เรื่อง(ผ่านช่องทาง ผวจ. จำนวน 53 เรื่อง และผ่านช่องทาง มทบ.33 จำนวน 55 เรื่อง) คิดเป็นร้อยละ 32.92% ลำดับที่ 2 เป็นเรื่องร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 99 เรื่อง (ผ่านช่องทาง มทบ.33 จำนวน 51 เรื่อง) คิดเป็นร้อยละ 30.18% และลำดับที่ 3 เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อพิพาทในเรื่องที่ดิน และการออกเอกสารสbทธิ จำนวน 41 เรื่อง (ผ่านช่องทาง ผวจ. จำนวน 14 เรื่อง และผ่านช่องทาง มทบ .33 จำนวน 27 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 12.5%)

สำนักข่าว CNX NEWS  รายงาน