วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ศาลฎีกา ยกฟ้อง “ปุ๊” วอร์มอัพ คดีฆ่ารัดคอแฟนสาว หลังถูกจำคุก นานกว่า 3 ปี

Spread the love

ศาลฎีกา ยกฟ้อง “ปุ๊” วอร์มอัพ คดีฆ่ารัดคอแฟนสาว หลังถูกจำคุก นานกว่า 3 ปี

 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 มิ.ย. 57  ณ ศาลจังหวัดหวัดเชียงใหม่ ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีอาญาดำที่ อ. 1443/2551 และคดีแดง อ.106/2554 ซึ่งเป็นคดีที่นายสุเมธ ผ่องผิว อายุ 62 ปี ยื่นฟ้องนายวุฒิชัย ใจสมัคร อายุ 38 ปี หนึ่งในเจ้าของร้านวอร์มอัพ อดีตแฟนหนุ่มของ น.ส.เบญจภรณ์ หรือแอนนี่ ผ่องผิว อายุ 27 ปี ในข้อหาฆ่า น.ส.เบญจภรณ์ ซึ่งสภาพศพมีผ้าพันคอสีดำปิดตา แขนทั้งสองถูกมัดด้วยเข็มขัดนิรภัย คอถูกรัดด้วยเข็มขัดนิรภัยติดกับต้นกระถินภายในป่าละเมาะหลังปั๊มน้ำมัน ปตท. ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2548

 

โดยก่อนหน้านั้นศาลได้ตัดสินจำเลย คือนายวุฒิชัย มีความผิด ให้จำคุกตลอดชีวิตเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2554 ต่อมาทาง นายธวัชชัย ใจสมัครผู้เป็นพ่อนายวุฒิชัย หรือปุ๊ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถนนวงแหวนรอบกลาง ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมกับนายศุภนันต์  วุทธานนท์ ทนายของนายวุฒิชัย ได้ยืนอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกตลอดชีวิตอีกในปี พ.ศ. 2555

 

หลังลูกชายถูกสั่งจำคุกตลอดชีวิต นายวุฒิชัยกับเพื่อนของลูกชายช่วยกันหาพยานหลักฐาน กระทั่งได้ผลตรวจดีเอ็นเอ ของภาคนิติวิทยาศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งยืนยันว่าผู้ตายถูกข่มขืน และฆาตกรรม โดยผลตรวจ DNA คราบอสุจิ และรอยเศษเนื้อเยื่อในซอกเล็บผู้ตายไม่ตรงกับลูกชาย ซึ่งผลตรวจดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ปกปิดไว้ตลอด จึงเข้าร้องกองปราบปราม จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และได้ทำการรวมรวมหลักฐาน และยื่นกับศาลอีกครั้ง

 

จนกระทั้งซึ่งล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ (27 มิ.ย.2557) ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกากรุงเทพฯในคดีอาญาดำที่ อ. 1443/2551และคดีแดง 106/54 โดยละเอียดแล้วสรุปว่า คดีดังกล่าวไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยลงมือฆ่าผู้ตายจึงยกฟ้องและให้ปล่อยตัวจำเลยภายในห้องรับฟังคำสั่งศาลฎีกาไม่มีญาติโจทย์ มีเพียงญาติจำเลยคือนายธวัชชัย ใจสมัครผู้เป็นพ่อนายวุฒิชัย และญาติๆพร้อมกับนายศุภนันต์  วุทธานนท์ ทนายของนายวุฒิชัยที่เข้ามาช่วยคดีตั้งแต่ ปี พ.ศ.2554 หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตจนกระทั้งคดีสิ้นสุดมารับร่วมรับฟังคำสั่งตัดสินของศาลฎีกาในวันดังกล่าว ซึ่งทุกคนต่างดีใจที่ต่อสู้มานานหลายปี

 

จากคดีนี้ จะเห็นได้ว่า การทำงานของ CSI ในการคลี่คลายคดี มีความสำคัญอย่างมากในคดีต่าง ๆ   และประโยคนี้ยังใช้ได้เสมอ ในคดีที่ ผู้บริสุทธิ์ต้องมารับโทษ ” การจับแพะ คือ ความอ่อนแอ ของกระบวนการยุติธรรม ”

 

รพิรัตน์ สุขแยง รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ