ลงทุนภาครัฐล้ม หวั่นโดมิโนอสังหาฯ – การบริโภคหดหาย
นักธุรกิจอสังหาฯสะท้อนภาคธุรกิจ หลังศาลล้ม พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ส่งผลราคาที่ดินภูธรลด 50% กระทบกำลังซื้อในประเทศ
นายธำรงค์ ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อกฎหมาย ทำให้ราคาที่ดินในต่างจังหวัดซึ่งมีการเก็งกำไรก่อนหน้านี้ปรับลดลงมา 50% จากที่ราคาปรับขึ้นไปกว่า 1 เท่าตัว และทำให้คอนโดมีเนียมที่อยู่ในต่างจังหวัด เกิดภาวะล้นตลาดอยู่แล้วขายออกยากกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่มีแผนจะพัฒนาพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อรองรับโครงการ 2 ล้านล้านนั้น จะต้องชะลอการลงทุนออกไปจนกว่าจะมีความชัดเจน แต่ก์ถือว่าเป็นโอกาสของผู้ซื้อคอนโดมีเนียม ที่จะได้ที่อยู่อาศัยในภูมิภาคที่ราคาถูกลง เป็นผลดีต่อแรงงานและวัสดุก่อสร้าง ที่มีเพียงพอต่อการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากความต้องการ 2 ล้านล้าน ลดลง
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฤทธา จำกัด กล่าวถึงการที่รัฐเบิกจ่ายงบประมาณไม่ได้ ทำให้ไม่มีเม็ดเงินออกมา การลงทุนต่าง ๆ ไม่เกิดขึ้น กระทบเศรษฐกิจภาพรวม และกระทบต่อมายังภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ลูกจ้างหรือหาเช้ากินค่ำ เพราะจะไม่มีเงินในการใช้จ่าย และจะกระทบไปยังภาคค้าปลีกที่อาศัยกำลังซื้อจากกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งกำลังซื้อก็จะหายไป
หากจะมองว่าภาคการท่องเที่ยวอาจเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ภาคท่องเที่ยวตอนนี้กระทบหนัก รวมถึงส่งออก ดังนั้นการที่มีการประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตได้ 3-4% อาจจะเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากภาครัฐไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ก็จะส่งผลกระทบ เพราะทำให้ไม่มีเงินเข้ามาในระบบ ไม่มีเงินหมุนเวียน และมีผลต่อรายได้โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวโยงกับภาครัฐที่ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามอยากให้เร่งสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาเร็วที่สุด ทั้งเพื่อให้เกิดการลงทุนและการบริโภคที่จะตามมา
ที่มา http://news.mthai.com/hot-news/316608.html
สำนักข่าว
cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน