วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

ร้องภาค 5 ข่มขู่-คุมคาม คดีสามีถูก อดีตนายก อบต.ยิงดับ

21 มิ.ย. 2013
235
Spread the love

ร้องภาค 5 ข่มขู่-คุมคาม คดีสามีถูก อดีตนายก อบต.ยิงดับ

เขียนหนังสื่อร้อง รอง.ผบช.ภ.5 ขอความเป็นธรรมคดีสามถูก อดีตนายก-รองนายก อบต.ยองดับคาบ้าน ใช้อิธิพลข่มขู่คุกคามความเอาชีวิตทั้งครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 20 มิ.ย. 56  นางสมศรี คำลม อายุ 51 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 57 บ้านสันหลวง ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา พร้อมด้วยบุตรชาย ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ5  เรื่องคดีที่สามีถูกผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นยิงเสียชีวิต และครอบครัวถูกข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด เกรงว่าจะไม่ได้รับครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงขอความเป็นธรรมเพื่อที่จะให้ตำรวจเร่งติดตามนำตัวฆาตกรที่ฆ่าสามีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5  เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนแทน

นางสมศรี คำลบ ได้เปิดเผยถึงข้อความในหนังสือร้องเรียนว่า คดีการถูกฆาตกรฆ่าใช้อาวุธปืนยิงระยะเผาขนเป็นเหตุให้สามี นายบุญแหลง  คำลบ อายุ 51 ปี ถึงแก่ความตายในบ้านที่อาศัยอยู่ เมื่อเวลา 00.20 น.ของวันที่ 3 พ.ค.56 ที่ผ่านมาในขณะนั้นซึ่งมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จำนวน 4 คนซึ่งเป็นคดีที่อุกอาจและสะเทือนขวัญไม่เกรงกลังกฎหมายบ้านเมืองเป็นที่กล่าวขานกันทั้ง อ.จุน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา คือ นายสุรินท์พรหม  หมื่นพัฒน์ อายุ 53 ปี อดีต นายกและรองนาย อบต.ทุ่งรวงทอง และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แต่ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งยังมีการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.จุน ล้าช้าจนทำให้พยานหลักฐานบางอย่างคาดเคลื่อนเปลี่ยนแปลง ทางผู้ต้องหายังได้มีการข่มขู่เอาชีวิตตนและบุตร 3 คน จากญาติพี่น้องของผู้ต้องหารวมทั้งมีการต่อรองคดี หลายครั้งก็ได้มีตำรวจยศสัญญาบัตรสังกัดในพื้นที่เกิดเหตุเข้ามาพูดจาโน้มน้าวให้ตนยอมความ ทั้งยังชี้นำเจ้าหน้าที่สอบสวนเพื่อเปลี่ยนรูปคดี ตนเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงจากความเป็นจริงรวมถึงความปลอดภัยของครอบครัว จึงได้เข้าร้องเรียนของความเป็นธรรมกับ รอง.ผชบ.ภ.5 ดำเนินการเพื่อความยุติธรรมในครั้งนี้ด้วย

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย  ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5  กล่าวว่า  ในสำนวนคดีทุกๆคดีนั้นจะต้องดูตามหลักฐาน  ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์  ส่วนคดีที่ล่าช้าจะช่วยดูแลเพื่อเร่งรัดสำนวนคดีให้  อีกทั้งพยานทั้ง2 นั้นทางเราจะส่งคนเข้าไปดูแล  หากว่าพยานทั้งสองต้องการ ก็จะนำไปอยู่ในโครงการคุ้มครองพยานเพื่อความสบายใจ  รวมไปถึงข้อกังวลต่างๆ จะนำเรียนผู้บังคับบัญชาให้ทราบตามลำดับต่อไป

 

ชมคลิป https://www.facebook.com/photo.php?

ทีมข่าว cnxnews รายงาน