รัฐมนตรีช่วยเป็นประธานเปิดบริการโรงพยาบาลนครพิงค์สาขาช้างเผือก

Spread the love

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานเปิดบริการโรงพยาบาลนครพิงค์สาขาช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ 

เพื่อยกระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลช้างเผือกเป็นโรงพยาบาลสาขาของโรงพยาบาลนครพิงค์ ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปในมาตรฐานเดียวกัน

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2555 เวลา 09.00 น. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.วิศิษฐ์ ตั้งนภากรผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานเปิดป้ายโรงพยาบาลนครพิงค์ สาขาช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่  โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานีอนามัยบ้านเจ็ดยอดได้ทำการเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2521 ยกระดับเป็นสถานีอนามัยขนาดใหญ่เมื่อปี 2540 และเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลช้างเผือก ในปี 2553 ปัจจุบันเป็นสถานบริการระดับปฐมภูมิ จัดให้บริการทั้งด้านส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาลฟื้นฟูสภาพและคุ้มครองผู้บริโภค และที่ผ่านมานับว่าจัดให้บริการอยู่ในระดับดีมาก

จากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคม ทำให้ตำบลช้างเผือกเป็นพื้นที่รับรองการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว และมีสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่ง ทำให้มีประชากรแฝงจำนวนมาก มีผู้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นตามลำดับทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยกระดับโรงพยาบาลสางเสริมสุขภาพตำบลช้างเผือกเป็นโรงพยาบาลสาขาของโรงพยาบาลนครพิงค์ในเรื่องการให้บริการการรักษาพาเฉพาะแผนกผู้ป่วยนอกหรือโอพีดี ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจรักษาผู้ป่วยเหมือนไปตรวจที่โรงพยาบาลนครพิงค์แต่ไม่มีเตียงนอนรักษา

ด้าน นพ.สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สำหรับการบริการของ รพ.นครพิงค์สาขาช้างเผือกนี้ ประกอบด้วยคลินิกทำฟัน คลินิกเบาหวาน ความดันโลหิต คลินิกผู้สูงอายุ การให้วัคซีนเด็ก มีห้องตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้น และบริการสร้างสุขภาพ เยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ใช้ยารักษามาตรฐานเดียวกัน โดยจัดบุคลากรจาก รพ.นครพิงค์หมุนเวียนให้บริการ ประกอบด้วยแพทย์ 1 คน ทันตแพทย์ 1 คน ผู้ช่วยทันตแพทย์ 1 คน พยาบาลวิชาชีพ 5 คน เภสัชกร 1 คน ผู้ช่วยเภสัชกร 1 คน นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด และหากมีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จะต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.นครพิงค์ ทันที

ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะเปิดโอกาสให้ประชาชนภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาถ้วนหน้าซึ่งมีประมาณ 48 ล้านคนที่สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลจากปีละ 2 ครั้ง เป็นปีละ 4 ครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่เปลี่ยนแปลที่อยู่บ่อยๆโดยไม่ต้องเดินทางกลับไปใช้สถานบริการเดิม นพ.สุรวิทย์ กล่าว.

 

สำนักข่าว

Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ