วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ระวังคอตีบ!!!

20 พ.ย. 2012
262
Spread the love

ระวังคอตีบ!!!

ระวังคอตีบ!!!

ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการอบรมการวิเคราะห์เรื่องโรคคอตีบทางห้องปฏิบัติและการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวัง เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังโรคคอตีบและใช้เป็นต้นแบบเครือข่ายการเฝ้าระวังการระบาดของโรคอื่นทั้งลักษณะคล้ายกันในอนาคต

เมื่อวันที่ 20 พ.ย 2555 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด น.พ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นประธานในการเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการอบรมการวิเคราะห์เรื่องโรคคอตีบทางห้องปฏิบัติและการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวัง ให้กับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานควบคุมโรคที่ 10 และจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขนาดใหญ่ในเขตภาคเหนือตอนบน รวม 8 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน รวม 200 คน

โดยนายบำรุง คงดี ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 เชียงใหม่ กล่าวว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคคอตีบตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน พบว่ามี ผู้ป่วยจากเชื้อโรคคอตีบแล้ว 79 รายใน 15 จังหวัด และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ผลการตรวจวินิจฉัยตัวอย่างจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ซึ่งเก็บจากผู้ป่วยและผู้สัมผัส พบว่าเมื่อเชื้อโรคคอตีบ C.diphtheriae จำนวน 67 ตัวอย่าง จาก 2,101 ตัวอย่างโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ถึงแม้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ถึงปัจจุบัน ยังไม่พบรายงานผู้ป่วยในเขตภาคเหนือตอนบนแต่ก็มีโอกาสที่โรคจะแพร่ระบาดมาในเขตนี้ได้ และพบว่าสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มระบาดไปสู่พื้นอื่น เนื่องจากปัจจุบันการเคลื่อนย้ายติดต่อไปมาของประชากรมีความสะดวก รวดเร็ว ดังนั้นการเตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการ การเพิ่มหน่วยบริการตรวจและซักซ้อมเครือข่ายเฝ้าระวัง

ด้านอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า มาตรการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคคอตีบขณะนี้ จะเน้นให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยรวดเร็วและให้การรักษาเร็ว โดยให้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จัดทีมเจ้าหน้าที่ ติดตามพัฒนามาตรฐานห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ และให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจยืนยันเชื้อคอตีบอย่างรวดเร็ว แม่นยำทั่วประเทศ  เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ ขณะนี้โรงพยาบาลส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 สามารถตรวจเชื้อชนิดนี้ได้  และครบ 100 เปอร์เซนต์ภายในเดือนธันวาคม 2555   ส่วนการรักษา ขณะนี้ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งใช้ยาปฎิชีวนะคือร๊อกซิโทรมัยซิน(roxithromycin) ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคชนิดนี้ได้ดี เมื่อเชื้อถูกทำลาย สามารถลดความรุนแรงอาการป่วยได้ เนื่องจากเชื้อโรคคอตีบ ไม่สามารถผลิตสารพิษหรือที่เรียกว่าท็อกซิน (toxin) ไปทำลายอวัยวะต่างๆที่สำคัญได้แก่ หัวใจ ไต และระบบประสาท เป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อจากผู้ป่วยแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้เป็นอย่างดีด้วย

สำหรับโรคคอตีบป้องกันได้ 2 วิธี คือฉีดวัคซีน โดยได้สำรองวัคซีนป้องกันโรคคอตีบในปี 2556 จำนวน 10 ล้านโด๊สแล้ว และให้ประชาชนล้างมือบ่อยๆ ใช้ช้อนกลางตักอาหารเมื่อกินอาหารร่วมกับผู้อื่น หากเป็นไข้หวัด ขอให้คาดหน้ากากอนามัย และพักผ่อนอยู่บ้านจนกว่าจะหาย เพื่อป้องกันเชื้อแพร่สู่คนอื่น หากเป็นไข้หวัด เจ็บคอ 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์ทันที .

 

สำนักข่าว 

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน