รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติภารกิจในจ.เชียงใหม่

 รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติภารกิจในจังหวัดเชียงใหม่

รมต.กระทรวงทรัพยากรฯ เพิ่มแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือที่ยังวิกฤตอยู่  หลังบินสำรวจพื้นที่เกิดปัญหาหมอกควันในอ.จอมทอง จ.เชียงใหม่และค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน มีค่าเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม ติดต่อกันหลายวัน

จากการที่ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุววณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขึ้นบินสำรวจในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พบว่า ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเผา   หลังจากนั้นได้ร่วมประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงกลาโหม เพื่อหาแนวทางและเพิ่มมาตรการในการแก้ไขปัญหา ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หลังพบว่าค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน มีค่าเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม ติดต่อกันหลายวัน

สำหรับแนวทางการแก้ไขที่จะดำเนินตั้งแต่วันนี้ (16 มีนาคม 2558) เป็นต้นไปจะดำเนินทั้ง 10 จังหวัด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 การดำเนินการภายในประเทศ ส่วนที่ 2 การดำเนินการระหว่างประเทศ

ส่วนที่ 1 การดำเนินการภายในประเทศ

1. เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เพื่อใช้ในการดับไฟ โดยได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จากหน่วยดับไฟป่า 35 ชุด จำนวน 350 คน  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 40 คน จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในภาคเหนือ และกำลังพลทหารในพื้นที่ภาคเหนือ

นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่มอุปกรณ์เพื่อบรรเทาการเกิดหมอกควัน ด้วยการเพิ่มรถดับไฟป่า รถบรรทุกน้ำ รถพ่นละอองน้ำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  และเครื่องบินจากกองทัพอากาศ จำนวน 2 ลำ เพื่อช่วยลำเลียงน้ำใช้สร้างความชุ่มชื้นในอากาศ

2. ให้ราฎรที่เป็นเครือข่ายของกรมป่าไม้ จำนวน 176 เครือข่าย และกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 163 เครือข่าย ช่วยดำเนินการเฝ้าระวังให้มากขึ้น

3. เร่งรัดการบังใช้กฎหมายของกระทรววมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

3.1 โดยออกประกาศของจังหวัดห้ามราษฎรเข้าพื้นที่ป่าเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1-30

เมษายน 2558 ซึ่งหากราษฎรต้องการเข้าไปในพื้นที่ป่าต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้หรือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อนเข้าพื้นที่

3.2 ให้แต่ละอำเภอของทุกจังหวัดจัดประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และร่วมกันจัดทำทะเบียนราษฎรที่มีอาชีพหาของป่า เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการควบคุมการเข้าพื้นที่ป่าของราษฎร รวมทั้งรายชื่อของราษฎรที่ทำการเกษตรในพื้นที่ป่าไม้ตามข้อผ่อนผันของมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2541

4. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวง ดำเนินการบินตรวจสภาพอากาศในพื้นที่เป้ามหายทั้ง 3 จังหวัดในการจัดเตรียมทำฝนเทียมด้วยการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาหมอกควันที่เกิดขึ้น

5. ติดตามการเกิดไฟป่าด้วยวิธีการต่าง ๆ

5.1 ติดตามข้อมูลจากการเกิดจุดความร้อน (hotspot) อย่างต่อเนื่อง

5.2 เพิ่มการลาดตระเวนทางพื้นดินและทางอากาศ เพื่อค้นหาจุดพื้นที่เกิดไฟป่า

ส่วนที่ 2 การดำเนินการระหว่างประเทศ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศจะต้องทบทวนข้อตกลง ความร่วมมือทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการทบทวนการจัดการและป้องกันปัญหามลพิษทางสอ่งแวดล้อมข้ามแดน กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาแนวทางความร่วมมือร่วมกันการด้าเนินงานภายใต้ข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการประชุมว่า สาเหตุของการเกิดหมอกควันและไฟป่า มาจากการที่ราษฎรบางกลุ่มจุดไฟเผาเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ป่า รวมทั้งการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ป่า และทำให้ไฟลุกลามเข้าๆไปในพื้นที่ป่า  สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือการสร้างความเข้าใจหรือการปรับทัศนคติที่ถูกต้องให้แก่ราษฎร ในอนาคตจะต้องวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว จากนั้นได้มอบอุปกรณ์ดับไฟป่าให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เพิ่มเติมในการใช้ดับไฟ

ในช่วงบ่าย พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุววณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ไปยังโครงการฟื้นฟูห้วยทราย ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และไปตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำปุ๋มเป้ง ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่.

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ