วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

มาแล้ว มาแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทย

02 มี.ค. 2015
345
Spread the love

มาแล้ว มาแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทย

Mitsubishi

ญี่ปุ่นช้ากว่าเยอรมันแค่ก้าวเดียวจริงๆ

           มีข่าวดีมาบอกครับ เป็นเรื่องของ รถที่ใช้พลังงานบริสุทธิ์ มันคือรถไฟฟ้า ซึ่งมีการค้นคว้า ทดลอง และพัฒนากันมาจนบัดนี้จะมีการนำออกจำหน่ายกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ลองมาติดตามข่าวนี้ดูก่อน

คุณจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช” รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังจากที่ “นายเทซีโระ ไอกาว่า” ซีอีโอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบเมื่อเร้วๆนี้  ว่า ทางมิตซูบิชิยังคงยืนยันใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกเป็นหลัก 76% ของการผลิตทั้งหมดในไทย หรือจำนวน 400,000 คัน คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกไปทั่วโลก 24% ทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 2ของมิตซูบิชิ  รองจากญี่ปุ่น

และในโอกาสนี้กระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้เชิญชวนให้มิตซูบิชิในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาลงทุนพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ต่อยอดจากการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นการผลักดันเป้าหมายส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งในอนาคต (Product Champion 3)

ตามข่าวเขาแจ้งว่าจากการประเมินท่าทีความสนใจของมิตซูบิชิที่จะเข้ามาลงทุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทยก็มีแนวโน้มที่ดี แต่เนื่องจากไทยยังไม่มีแนวทางส่งเสริมชัดเจนเท่าที่ควร ทางมิตซูบิชิจึงต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะรถยนต์ดังกล่าวมีราคาแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป 1.5-2 เท่า จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ประกอบกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการลงทุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ที่ 10% เทียบกับอัตราภาษีรถอีโคคาร์ที่เรียกเก็บ 17% ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก ทำให้ไม่จูงใจให้เข้ามาลงทุนมากพอ

เพราะฉะนั้น ใน เร็วๆ นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งสิทธิประโยชน์การลงทุน มาตรการภาษี และเงื่อนไขอื่นๆ ที่สามารถดึงดูดผู้ประกอบการมากพอจะเข้ามาลงทุนได้คุ้มค่าและเหมาะสม คาดจะสามารถส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่ง หรือ โปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 3 ได้ภายใน 5 ปีนับจากนี้ หลังจากที่โปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 1 และ 2 คือ รถกระบะขนาดไม่เกิน 1 ตัน และรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์ 1 และ 2) ประสบความสำเร็จมาแล้ว เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยมีการพัฒนาต่อเนื่องและยังเป็นผู้นำในอาเซียน

               สำหรับรถกระบะขนาด 1 ตันที่ไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่อันดับ 2 ของโลกนั้นเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวแรกที่ใช้เวลาพัฒนามาร่วม 30 ปี ขณะที่อีโคคาร์ซึ่งเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 2 ใช้เวลาในการพัฒนามา 10 ปี 

                จึงสรุปว่า ไทยเราจะผลักดันให้มีการผลิตรถยนตืไฟฟ้าอย่างแน่นอน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเดินหน้าที่จะผลักดันในระยะเวลาที่ไม่นานเกินรอคือ 5ปี ตามที่เป็นข่าว เวลา5ปี คงไม่นานเกินไป หลายคนบอกรอได้ แต่หลายคนบอก กระหาย เพราะต่างประเทสเขาใช้กันแล้ว ไทยเราก็น่าจะได้ใช้บ้าง

          ผมก็ไปติดตาม หาข่าว ปรากฏว่า หลังจากข่าวที่ว่าผ่านไป พระเอกจากยุโรป แน่กว่าครับผมได้ข่าวดีมาบอก

         มีรายงานสั้นว่า  ครั้งแรกของประเทศไทย ที่ชาวไทยจะได้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่ทนเห็นต่างชาติใช้กันมาซักพัก ล่าสุด BMW i3 เตรียมเข้าไทยแล้ว

           สำหรับรายละเอียดของ BMW i3

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง BMW i3 มาในรูปทรงแบบ Hatch Back ใช้คาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาและแข็งแกร่งพิเศษ เป็นชิ้นส่วนตัวถังส่วนระบบขับเคลื่อนนั้น ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถให้กำลังได้มากถึง 170 แรงม้า โดยมีแบตเตอรี่ Li-on เป็นตัวกักเก็บพลังงานแบบหายห่วง   โดยระบบไฟฟ้าดังกล่าวของ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอ3 นี้ สามารถเสียบกับปลั๊กไฟบ้านเราได้เลย ซึ่งอัตราบริโภคไฟอยู่ที่ 2400W/ชม. ชาร์จ 6-8 ชม./1 ครั้ง  นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถ ใช้ที่ชาร์จแบบพิเศษ AC Fast Charge ในการชาร์จได้ ซึ่งจะย่นเวลาเหลือเพียง 3-6 ชม./ครั้ง ซึ่งที่ชาร์จแบบพิเศษนี้ สามารถซื้อเพิ่มเติมได้

            และแท่นชาร์ทดังกล่าว ยังมีไว้บริการที่ปั้ม ปตท. อีกด้วย

 

ข่าวเขาสรุปว่า พร้อมแล้ว พร้อมแล้ว มาแล้ว มาแน่ มีการเตรียมการกันไว้บ้างแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงเลยครับว่า บ้านเราค่อนข้างพร้อมแล้วที่จะปรับตัวเข้ากับรถยนต์ประเภทนี้

และจะได้รู้จักมันอย่างดีแน่ๆ ในงาน Motor Show 2015 นีซึ่งเขาจะเอารถมาโชว์และจำหน่ายด้วย 

 

  อรุณ ช้างขวัญยืน/รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ