วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

มาอีกแล้วข่าวสยองเขาจะเลิกขาย น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91

29 เม.ย. 2015
229
Spread the love

มาอีกแล้วข่าวสยอง

      เขาจะเลิกขาย น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91

Provincial-oil-price

เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างจัดทำแผนน้ำมัน 20 ปี ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมและสอดรับกับแผนพลังงานทดแทน

                 สำคัญยิ่งคือ

                แผนหนึ่งที่จะพิจารณาคือการยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91

                คุณวิฑูรย์บอกว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 เม.ย. แก๊สโซฮอล์91 ราคา 27.68 บาท/ลิตร     ซึ่งเบื้องต้นสามารถดำเนินการได้ทันทีด้วยการทำโครงสร้างราคาแก๊สโซฮอล์อี 10 คือ แก๊สโซฮอล์ 91 ให้เท่ากับแก๊สโซฮอล์ 95 (ราคา 28.50 บาท/ลิตร) เพื่อให้ผู้บริโภคหันไปเลือกใช้แก๊สโซฮอล์ 95 แทนทั้งหมด 

                  ไม่ได้บอกกว่าจะทำอย่างไรนะครับ  แต่ โซฮอล์91 ราคาถูกกว่าโซฮอล์95ลิตรละไม่ถึงหนึ่งบาทแบบนี้ก็น่าจะไม่ยาก แค่ปรับขึ้นราคามาให้เท่ากันก็จบ

                   แต่ปัญหาตอนนี้ คือการหารือกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันถึงแนวทางการยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 กลุ่มโรงกลั่นได้ขอเวลาปรับตัว 3 ปี เนื่องจากจะมีปัญหาต้องปรับปรุงกระบวนการกลั่น น้ำมันเบนซินพื้นฐาน หรือ จีเบส ให้พร้อมรองรับในการนำเอทานอลมาผสมเบนซินให้เป็นแก๊สโซฮอล์ 95 แทน

                    อย่างไรก็ตามหากจะดำเนินการทันทีสามารถทำได้ แต่จะต้องนำเข้าสาร อะโรเมติกส์บางชนิดมาผสม ซึ่งมีภาษีศุลกากร ก็ต้องไปหารือกันต่อไป

ขอพักไว้ก่อน มาฟังความคิดเห็นของคนในวงการน้ำมันเกียวกับเรื่องนี้บ้าง

คุณสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ค้าและผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานได้ปรับเป้าหมายการใช้เอทานอลจากเดิม 9 ล้านลิตร/วัน ในปี 2564 เหลือ 6 ล้านลิตร/วันนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เนื่องจากเป้าหมายเดิมมากเกินความจริงเพราะปัจจุบันการใช้เอทานอลอยู่ที่ระดับเพียง 3.3 ล้านลิตร/วันเท่านั้น อย่างไรก็ตามการส่งเสริมการใช้เพิ่มขึ้นด้วยการยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์อี10 ให้เหลือตัวใดตัวหนึ่ง เพื่อทำให้ผู้ค้ามีหัวจ่ายเพิ่มขึ้นในการเลิกไปจำหน่ายแก๊สโซฮอล์อี20 เพิ่มก็เป็นสิ่งที่ดีและเห็นด้วย

                  แต่ในมุมมองของนักวิชาการ เป็นแบบนี้ครับ

แนวคิดเรื่องการยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์91หรือชื่อเต็มๆ คือ “แก๊สโซฮอล์ อี10 ออกเทน 91” มีการศึกษาเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว แต่เป็นไปอย่างคร่าวๆ ยังไม่ใช่ผลสรุปเชิงลึก เพราะยังไม่มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น และผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 แต่คราวนี้นำมาปัดฝุ่นอีกครั้ง จริงจังมากขึ้น โดยมอบให้ สนพ.และกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เป็นเจ้าภาพในการจ้างที่ปรึกษา และหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง   โจทย์ของรัฐบาลก็คือ ทำให้การใช้น้ำมันของไทยมีประสิทธิภาพและมีชนิดน้ำมันที่ไม่หลากหลายชนิดเกินไป เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก

                  จากการประเมินเบื้องต้นของ สนพ. หากยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จะมีทั้งผลดีและผลเสีย

ผลดีที่เห็นชัดคือ การขนส่งไม่ยุ่งยาก สามารถขนส่งได้ต่อครั้งปริมาณมากขึ้น และยังทำให้ผู้ค้าน้ำมันเปลี่ยนหัวจ่ายไปจำหน่ายน้ำมัน อี85 ง่ายขึ้น  ส่วนผลเสียอาจทำให้โรงกลั่นน้ำมันได้รับภาระจากการยกเลิกผลิตน้ำมันชนิดดังกล่าว

แต่สำหรับชาวบ้านคนใช้รถอาจต้องตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงต้องการยกเลิกน้ำมันที่มีราคาถูกกว่า แทนที่จะยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ซึ่งมีราคาสูงกว่า

                   แบบนี้บีบให้ต้องใช้ของแพงหรือเปล่า

 

มีคำตอบจาก คุณมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน อดีตผู้บริหาร บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ว่า แม้จะยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 แต่ผู้บริโภคยังมีทางเลือกขึ้นอยู่กับความพอใจ คือ ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 แพงกว่าเดิมแต่คุณภาพดีกว่า หรือใช้น้ำมัน อี20 และอี85 โดยเฉพาะน้ำมัน อี20 มีส่วนผสมของออกเทนเช่นเดียวกับแก๊สโซฮอล์ 95 แต่ราคาถูกกว่าไม่น้อย  การเปลี่ยนแปลงนี้ยังช่วยลดชนิดน้ำมันของประเทศให้ลดลง จากปัจจุบันไทยถือเป็นประเทศที่มีชนิดน้ำมันมากที่สุดของโลก จนผู้ค้าน้ำมันทั้งไทยและต่างชาติท้วงติงมาตลอดหลายปี  ส่วนความกังวลเรื่องโรงกลั่น นักวิชาการด้านพลังงานรายนี้ชี้ว่า มีผลกระทบเล็กน้อย คือส่วนผสมน้ำมันเบนซิน อาทิ แนฟทา ในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อาจต้องหันไปส่งออกแทน แต่เชื่อว่าจำนวนไม่มาก ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโรงกลั่นของประเทศแน่นอน  สุดท้ายคุณมนูญค่อนข้างมั่นใจว่า การยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 จะส่งผลดีมากกว่าผลเสีย

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่ามีผลดีมากกว่าผลเสียจริงหรือไม่ ไปสำรวจเปรียบเทียบปริมาณการจำหน่ายน้ำมันกลุ่มเบนซินช่วง 8 เดือนของปีนี57 (มกราคม-สิงหาคม) กับตัวเลขย้อนหลัง 2 ปี  แม้จะพบว่า ชนิดน้ำมันกลุ่มเบนซินที่คนไทยนิยมเติมมากที่สุด คือ แก๊สโซฮอล์ 91 เนื่องจากระดับราคาที่ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ประกอบกับความเชื่อว่า แก๊สโซฮอล์ 91 ประสิทธิภาพดีกว่า สิ้นเปลืองน้ำมัน น้อยกว่าน้ำมันอีก 2 ชนิดที่รัฐบาลกำลังสนับสนุน คือ น้ำมัน อี20 และน้ำมัน อี85  แต่จากสถิติช่วง 2 ปีหลังคือ ระหว่างปี 2555-2556 จนถึง 8 เดือนแรกปี57 พบว่าน้ำมัน 2 ชนิดหลัง มีการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จะมีปริมาณไม่มาก เพราะหัวจ่ายน้อย แต่หากคิดเป็นสัดส่วนต้องถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด ดังนี้

น้ำมัน อี20 ช่วง 8 เดือนของปี57 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 3.5 ลิตรต่อวัน ขณะที่ปี 2556 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.638 ลิตรต่อวัน และปี 2555 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.002 ลิตรต่อวัน

 

น้ำมัน อี85 ช่วง 8 เดือนของปี57 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 0.8-0.9 ลิตรต่อวัน ขณะที่ปี 2556 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.385 ลิตรต่อวัน และปี 2555 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.098 ลิตรต่อวัน จึงเป็นแรงจูงใจหนึ่งที่อาจทำให้รัฐบาลเชื่อว่า ถ้ายกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 แล้ว คนไทยยังมีทางเลือกที่ถูกกว่า

                นั่นเป็นเหตุเป็นผลของการที่จะยกเลิกน้ำมันโซฮอล์91 ซึ่งมีสถิติการใช้มากเป็นขวัญใจของมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันแม้ว่าปัจจุบันราคาจะวิ่งตามหลังหรือถูกกว่าโซฮอล์95ลิตรละไม่ถึงบาท แต่อย่าลืมว่ามันก็ยังถูกกว่า  การจะยกเลิกแล้วบีบให้คนมาเติม95แทนถึงจะทำได้เหมือนที่เคยเลิกเบนซินธรรมดา91ไปแล้วเสียงบ่นก็คงดังกระหึ่มอยุ่เหมือนกัน เพราะฉนั้นในทัศนะของผม หากจะเลิก ซึ่งคาดหมายว่าคงต้องเลิกแน่ ก็ควรทำความเข้าใจกับประชาชนให้ดี และสำคัญพยายามอย่างไรก็ได้ให้น้ำมัน95 ราคาเท่ากับ 91เสียก่อน เพราะเคยฟังผู้รู้หลายท่านเคยบอกวิธีการไปบ้างแล้ว เช่น ลดภาษีสรรพสามิต ลดค่าการตลาด ลดการเก็บเงินเข้ากองทุน

               แต่ไม่ควรอย่างยิ่งคือ ไปทำให้ราคา91 แพงเท่ากับ95ด้วยการขึ้นราคา91

 

อรุณ ช้างขวัญยืน/เรียบเรียงและรายงาน

 สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ