วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

มารู้จักการ แต่งตัว แต่งหน้า แบบ เกาหลี ญี่ปุ่น กัน

Spread the love

มารู้จักการ แต่งตัว แต่งหน้า แบบ เกาหลี ญี่ปุ่น กัน

แฟชั่น เกาหลี

 

   แต่ก่อนนั้น เรื่องแฟชั่นเราต้องยกให้ชาวญี่ปุ่นเค้า ไม่ว่าจะแต่งหวานๆ แต่งแปลกๆ แต่งเท่ๆ เก๋ไก๋ แต่ทุกวันนี้เรารับกระแสเกาหลีเข้ามาตั้งแต่ แดจัง กึม ฟูลเฮ้าส์ ดงบังชินกิ วันเดอร์เกิล์ล ฯลฯ ดังนั้นหากพูดถึงเรื่องแฟชั่นแล้ว ปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง นั่นก็คือ “แฟชั่นสไตล์เกาหลี” กระแสนิยมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

   แฟชั่นในยุคนี้ “เทรนด์เกาหลี” เริ่มเข้ามาในสังคมไทยเรามากสุด ๆ เมื่อพูดถึงคำ ๆ นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ กระแสที่มาแรงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมทางด้านการบันเทิง ดารา นักร้อง ซีรี่ส์ต่าง ๆ ในด้านของภาษาก็เป็นที่นิยมไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีจำนวนนิสิตนักศึกษาไม่ น้อยที่สนใจและเลือกเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้น พวกเราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การทักทาย
และแฟชั่นเสื้อผ้า เพราะว่าคนเกาหลีเน้นสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาลแตกต่างกันไป แต่ละฤดูมีลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน เช่น

 

แฟชั่น เกาหลี


+ ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า “พม” ฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด สดใส เสื้อผ้ามีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน

 

แฟชั่น เกาหลี


+ ฤดูร้อน หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า “ยอรึม” ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีสดใสเช่นกัน แต่โทนสีอ่อนลงมากกว่า ลักษณะเสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน เป็นต้น

 

แฟชั่น เกาหลี


+ ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า “คาอึล” ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นเสื้อผ้าสีทึบๆ มืดๆ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีน้ำตาล

 

แฟชั่น เกาหลี


+ ฤดูหนาว หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า “คยออูล” ฤดูนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่เน้นสีดำเป็นหลัก เสื้อแขนยาวสีเข้ม เสื้อกันหนาวสีดำ เสื้อไหมพรมใส่คู่กับผ้าพันคอสีเข้มๆ


   เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัว
ยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน

   สำหรับ ผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก

+ รองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
+ เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
+ ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
+ เครื่องประดับผม ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ คือ “ที่คาดผมแบบทูอินวัน” (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก

 

แต่งหน้า เกาหลี



รวมไปถึง “แฟชั่นการแต่งหน้าแบบเกาหลี” ที่เป็นกระแสมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ การแต่งหน้าแบบเกาหลีจะเน้นแบบธรรมชาติเป็นหลัก การแต่ง
หน้าแบบนี้คนไทยเราก็กำลังฮิตกันมาก ๆ ลักษณะการแต่งหน้าแบบนี้ นอกจากจะดูสวยอย่างธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่สดใสอีกด้วย

แต่งหน้า เกาหลี

1. คนเกาหลีเวลาแต่งหน้าจะเน้นที่ “ดวงตา” เป็นหลัก อาจเป็นเพราะว่าคนเกาหลีมีจุดอ่อนที่ตา หมายถึง ตาตี่ และมีชั้นเดียว สามารถลังเกตได้
จากการที่คนเกาหลีทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเน้นทำตาสองชั้นเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ไม่ทำศัลยกรรมจะมีการแต่งดวงตาให้ดูคมชัดขึ้น และเป็นธรรมชาติ โดยเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิว หรือสีขนตา และควรใช้ประมาณ 3 สี โดยทาไล่ตามเฉดโทนอ่อนที่สุดไปจนถึงเข้มที่สุด และ ลงสีที่หนึ่งที่เป็นโทนสีอ่อนสุดบริเวณเปลือกตา ทาสีที่สองลงตรงบริเวณจุดกึ่งกลางของตา และเกลี่ยขึ้นข้างบน แล้วไล่สีที่สามจากหางตามาถึงบริเวณกึ่งกลางตาแล้วเกลี่ยขึ้น ลงสีที่เข้มที่สุดตามแนวชิดขอบตาอีกครั้ง และเกลี่ยให้เรียบเนียน

2. ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยคมชัดยิ่งขึ้น อย่าลืมเขียนขอบตาด้วย แต่ควรเป็นชนิดเค้กอายไลเนอร์ เพราะดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่ควร
เขียนแบบตวัดปลายขึ้น เขียนสีดำเฉพาะขอบตาบนเท่านั้น ซึ่งจะลากให้เป็นเส้นเล็กที่สุดโดยแทรกเข้าไประหว่างขนตา ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปจากหัวตาจนถึงหางตาเท่า ๆ กัน และใช้แปรงเกลี่ยเพื่อไม่ให้เห็นเป็นเส้นขอบวาด

 

3. ส่วนขอบตาล่าง ให้ใช้สีขาวเขียนที่ขอบตา โดยเขียนที่ขอบตาด้านใน อีกเทคนิคที่ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งนั่นคือใส่ขนตาปลอม ซึ่งนิยมแซมขนตาแบบที่เป็นช่อ เพราะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเป็นแผง การดัดขนตาให้งอนเริ่มจากโคนไล่ขึ้นไปที่ปลายและปัดมาสคาร่าทั้งขนตาจริงขนตาปลอมพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูเป็นธรรมชาติ

   ส่วนการแต่งตัวแบบชาวญี่ปุ่น ก็ยังไม่ได้หายไปไหน แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า ที่เค้าแต่งๆ กันนั้น เรียกว่ายังไง วันนี้เย็นตาโฟรวบรวมมาให้อ่านกันค่ะ

 

แฟชั่น ญี่ปุ่น

 

แฟชั่น ญี่ปุ่น


แฟชั่น วัยรุ่นสไตล์ญี่ปุ่นตอนนี้ที่มาแรงสุดๆ ก็คงจะเป็น เสื้อผ้า ประเภท Gothic & Lolita และ Punk เรามาเริ่มรู้จักกันเลยดีกว่าว่าแต่ละสไตล์เป็น
อย่างไร…

แฟชั่น ญี่ปุ่น
Gothic (โกธิค)
แฟชั่น แนวนี้ส่วนมากจะเน้นไปในเรื่องของโทนสีที่ดูครึมๆ ลึกลับๆ  ซึ่งเป็นแฟชั่นแบบ “Dark Style” มักจะเป็นสีดำซะส่วนใหญ่ แต่ก็อาจจะมี
ส่วนประกอบเป็นสีขาว หรือสีแดง ตามแต่สไตล์ของแต่ละคน

ที่ มาของแฟชั่นแนวนี้มาจากทางยุโรปเหนือและแถบอังกฤษค่ะ ซึ่งต้นกำเนิดอยู่ที่ชาวพื้นเมือง เรียกว่า “ชาวโกธิค” ซึ่งเราจะเห็นแฟชั่นสไตล์นี้ในหนัง ผี เช่น พวกท่านเคาน์, แวมไพร์ หรือพวกแม่มดในเทพนิยายที่ดูเรียบแต่หรูนั่นเอง หรือถ้าใครเคยอ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง “หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว” (Yamatonadeshiko) ก็จะเห็นการแต่งการสไตล์ Gothic ในเรื่องด้วยนะคะ

แฟชั่น ญี่ปุ่นLolita หรือ Lolita Baby (โลลิต้า)
ส่วนมากแฟชั่นแนวนี้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นสาวๆ มากกว่า เพราะจะออกแนวหวานแหว๋วเหมือนตุ๊กตาน่ารักนะคะ เสื้อผ้าในแนวนี้จะเน้นไป
ทาง ลูกไม้ ระบาย และสีผ้าที่ดูหวานๆ เช่น สีชมพู สีขาว ซะส่วนใหญ่แฟชั่นแบบ Lolita คือการนำเอาแบบชุดของตุ๊กตาของเด็กผู้หญิงและชุดของเชื้อพระวงศ์ (พวกเจ้าหญิงน่ะคะ)นำมาประยุกต์ใช้กันให้เหมือนเจ้าหญิงน้อยๆในเทพนิยาย แฟชั่นแนวนี้เป็นที่นิยมมากในผู้ดีสมัยก่อนในแถบยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และได้แพร่หลายไปในอีกหลายประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น

Neo Lolita (นีโอโลลิต้า)
Neo Lolita (นีโอโลลิต้า)  Neo Lolita เป็นการนำสไตล์ Lolita มาประยุกต์ให้เป็นแบบที่ทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ เป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะสาวๆ เพราะโทนสีจะหวานๆ นอกจากนั้นยังใช้ผ้าลายสก็อตมาตกแต่งอีกด้วย

Gothic & Lolita
Gothic & Lolita  แฟชั่นสไตล์ Gothic & Lolita คือ การนำเอาแฟชั่นแนว Gothic และ Lolita มารวมกัน โดยนำเอาความลึกลับของแนว Gothic และ ความหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของแนว Lolita มาผสมผสานกันทำให้เกิดเป็นแนวใหม่ คือ Gothic & Lolita ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคงจะเป็นเสื้อผ้าของ Mana วง Malice Mizer

แฟชั่น ญี่ปุ่น
Punk
Punk หรือ UK.Punk (พังค์) แฟชั่นสไตล์ Punk เริ่มตั้งแต่ยุคปลายของปี’60 และถิ่นกำเนิดของแฟชั่นแนวนี้คือประเทศอังกฤษ สมัยนั้นจะเริ่มใน กลุ่มเล็กในยุคที่มีการปฏิวัติและเหตุจลาจลกลางเมือง ซึ่งแนวนี้จะออกแนวรุนแรง เช่น มีการเจาะตามร่างกาย การเพ้นท์หรือสัก แฟชั่นแนวนี้จะเน้นโทนสีดำเป็นหลัก นิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย นิยมแต่งหน้าและเขียนตากับปากด้วยสีดำ โดยจะมีส่วนประกอบของผ้าที่เป็นตาข่าย และเศษผ้าลุ่ยๆ ส่วนเครื่องประดับส่วนใหญ่จะเป็นเข็มขัด โซ่และหมุดเหล็ก  โดยจะเห็นได้จาก  วงร็อกของอเมริกานั่นเอง

Punk หรือ UK.Punk (พังค์)
JAP’Punk (เจแปนพังค์)  เป็นพังค์ที่ประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์ของญี่ปุ่น ต้นแบบมาจาก UK.Punk และการ์ตูนเรื่อง NANA ของ Ai Yazawa พังค์ในแบบญี่ปุ่นบางทีก็จะอาศัยประยุกต์ระหว่างผ้าลายญี่ปุ่นมาบวกกับการออกแบบในแนวพังค์

 

เด็กแนวสไตล์ญี่ปุ่น

แฟชั่น ญี่ปุ่นแฟชั่น Gal
พูดถึงแฟชั่นญี่ปุ่นยุคแรกๆ เลย ใครๆ ก็ต้องนึกถึงสาวน้อยหน้าใส ใส่ถึงเท้ายาวๆ ย่นๆ ที่เรียกว่า
Loose Socks  .. ถือว่าเป็นแฟชั่นของเด็กวัยรุ่นยุคดั้งเดิมเลยทีเดียว (ราวๆ ก่อนปี 1998) ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีแต่งกันอยู่ แฟชั่นแบบนี้ เราเรียกว่า Gal

โดยมีกฎง่ายๆ เพียงแค่
1. มีความมั่นใจในความน่ารักของตัวเอง
2. แต่งตัวออกใสๆ น่ารักไว้ก่อน
3. พูดด้วยน้ำเสียงสูงหวาน
4. นุ่งมินิสเกิร์ต (แม้จะเป็นชุดนักเรียน) พร้อม Loose Sock เรียกได้ว่า ขายความใสล้วนๆ เลยก็ว่าได้

แฟชั่น ญี่ปุ่น

แฟชั่น Gankuro
สาวๆ จะนิยมทาหน้าทาตัวให้ดำ และย้อมผมสีทอง ใส่ไมโครสเกิร์ตและรองเท้าบูต ซึ่งเราจะเรียกว่า แฟชั่น Gankuro-หน้าดำ ซึ่งนับว่า เป็นแฟชั่นที่หลุดโลกมากทีเดียว

แฟชั่น ญี่ปุ่น
แฟชั่น Manba
สไตล์ Manba นั้น ดูเผินๆ จะคล้ายกับกังคุโระมากทีเดียว เพราะจะทาผิวและหน้าสีดำเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่ Manba นั้นมักย้อมผมสีขาว
(หรือไม่ย้อมผม) แต่งขอบตา ขอบปากให้เป็นสีขาวมากๆ และจะไม่แต่งตัวเน้นความเท่ แต่จะเน้นความน่ารักแทน นิยามสีชมพู และมักมี Accessory น่ารักติดตัวเสมอ มักพูดลงท้ายด้วยคำว่า nyan (คล้ายเสียงแมวร้อง) ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มผู้ชาย เราจะเรียกว่า Center Guy ซึ่งจะเน้นความน่ารักไม่แพ้กัน

 

 

แต่งหน้า ญี่ปุ่น


5 กฎเหล็ก Japanese Make Up Style
1. ผิวหน้าจะต้อง เนียน กระจ่างใส ไร้ริ้วรอย
2. ปัดแก้มด้วยสีชมพูเรื่อ หรือ สีพีช
3. ตาจะต้องดูกลมโ ต ขอบตาชัด มีประกายวิ้ง วิ้ง ขนตายาว หนา และงอน
4. คิ้วโก่งเป็นเอกลักษณ์ สีคิ้วเดียวกับสีผม
5. ปากอวบอิ่ม สีนู้ดบางใส และเคลือบกลอสเป็นเงา

 

ขอบคุณที่มา http://blog.eduzones.com

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ