วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

มช.เดินหน้าเปิดโครงการมหึมา แต่งแต้มสีสันให้ “นิมมานเหมินท์”

Spread the love

scoop11111

สกู๊ปพิเศษ

มช.เดินหน้าเปิดโครงการมหึมา แต่งแต้มสีสันให้ “นิมมานเหมินท์”

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พลิกที่ดิน 88 ไร่ ทำเลทองผืนสุดท้ายย่านนิมมานเหมินท์ ขึ้น “CMU Square” “เซ็นทรัล-สยามฟิวเจอร์-อรสิริน-ตลาดต้นพะยอม” ชิงดำสัมปทานเฟสแรก 30 ไร่ ลงทุนกว่า 300 ล้าน พร้อมทุ่มอีก 200 ล้าน ปักหมุดแลนด์มาร์กพื้นที่สีเขียว 41 ไร่

             

เป็นข่าวสำคัญที่เดียวครับ เพราะฉะนั้น สกู๊ปข่าวCNX จึงต้องทำหน้าที่ นำเสนอรายละเอียดให้ท่านได้ทราบ

ข่าวแจ้งเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานบริหารการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้จัดทำผังแม่บทการใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัย โดยวางแนวทางพัฒนาพื้นที่ราว 88 ไร่ บนถนนนิมมานเหมินท์ ตรงข้ามหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้เป็นอุทยานการศึกษาและบริการวิชาการ ภายใต้โครงการ “CMU Square” (ซีเอ็มยู สแควร์) ซึ่งแบ่งเป็น 4 โซน คือ โซนศิลปะ (Arts) โซนวัฒนธรรมล้านนา (Culture) โซนธรรมชาติ (Nature) โซนชุมชน (Community) ทั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญที่จะพัฒนาและบูรณาการพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและบริการวิชาการแก่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไป รวมถึงเพื่อเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการพื้นที่ของมหาวิทยาลัยให้เกิดประโยชน์ คุ้มค่าและพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งพื้นที่ 88 ไร่ดังกล่าวนี้ถือเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ที่สุดบนถนนนิมมานเหมินท์ ซึ่งที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้พัฒนาเป็นแปลงทดลองการเกษตร การปลูกข้าว ปลูกผักเพื่อการเรียนรู้

ทางด้านรองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร ผู้จัดการโครงการซีเอ็มยู สแควร์ เปิดเผยว่า จะเริ่มพัฒนาโครงการเฟสแรก คือ โซนชุมชน (Community) บนพื้นที่ 30 ไร่ ซึ่งจะเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับบริษัทเอกชน ขณะนี้มีกลุ่มทุนรายใหญ่จำนวน 4 ราย ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการ ประกอบด้วยกลุ่มทุนจากส่วนกลาง 2 ราย คือ กลุ่มเซ็นทรัลและกลุ่มสยามฟิวเจอร์ ส่วนกลุ่มทุนท้องถิ่นเชียงใหม่อีก 2 รายคือ กลุ่มอรสิริน ของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มตลาดต้นพะยอม ซึ่งกลุ่มทุนทั้ง 4 รายจะต้องนำเสนอโครงการ (Proposal) เข้ามาเพื่อให้มหาวิทยาลัยพิจารณา โดยจะเปิดให้มีการยื่น Proposal ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และคาดว่าภายในเดือนเมษายน 2559 จะได้ผู้ร่วมทุนและจะทำสัญญาร่วมทุน พร้อมเริ่มพัฒนาโครงการทันที สำหรับรูปแบบของการร่วมทุน จะเป็นลักษณะการให้เช่าสัมปทานที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการระยะเวลา 25 ปี โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนด้านการก่อสร้างโครงการทั้งหมดและบริหารจัดการโครงการ คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนมากกว่า 300 ล้านบาทแต่รูปแบบของโครงการจะต้องดำเนินการตามคอนเซ็ปต์ที่มหาวิทยาลัยวางแนวทางไว้ คือ เป็นศูนย์ให้ข้อมูลของมหาวิทยาลัย รวมทั้งพื้นที่แสดงผลงาน ลานกิจกรรม ลานจอดรถ ร้านค้าให้บริการขนาดต่าง ๆ ซึ่งอาคารต่าง ๆ กำหนดให้มีความสูงไม่เกิน 12 เมตร

รองศาสตราจารย์ประเสริฐกล่าวอีกว่า นอกจากโซน Community บนพื้นที่ 30 ไร่ที่จะเริ่มทำในราวต้นปี 2559 แล้ว ทางมหาวิทยาลัยจะพัฒนาเฟสที่ 2 ต่อเนื่องไปพร้อม ๆ กัน 3 โซน ด้วยงบประมาณที่มหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ลงทุนเองจำนวนกว่า 200 ล้านบาท คือ โซนธรรมชาติ บนพื้นที่ 41 ไร่ โดยออกแบบ/ปรับปรุงพื้นที่ทั้ง 41 ไร่ ให้เป็นพื้นที่สีเขียว เน้นภูมิสถาปัตยกรรม พร้อมเครื่องบ่งชี้สถานที่ (Landmark) ให้มีความโดดเด่น สวยงาม เป็นปอดและจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ ภายในโครงการยังออกแบบให้มีทางเท้า ทางจักรยาน ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ และที่จอดรถที่สามารถรองรับจำนวนรถยนต์ได้มากกว่า 1,000 คัน

 ขณะที่โซนวัฒนธรรมและโซนศิลปะ มีพื้นที่รวมกัน 17 ไร่ ซึ่งจะเป็นลักษณะของการปรับปรุงโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว คือ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม 9 ไร่ จะพัฒนาเรือนโบราณ ให้เป็นอุทยาน Lanna Village ที่เปิดให้ผู้สนใจสามารถเข้ามาศึกษา ในลักษณะศูนย์การเรียนรู้ด้านล้านนาศึกษา มีกิจกรรมวิถีชีวิตล้านนาไทลื้อ ไทยวน ไทเขิน ไทใหญ่ โดยให้คนเข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมเป็นล้านนาคดีแบบจำลองมีชีวิต ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ กลุ่มเป้าหมายมีทั้งเยาวชน นักศึกษา นักวิชาการ และนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังสามารถสร้างเครือข่ายและพันธมิตรกับชุมชน ท้องถิ่น ผสมผสานนักวิชาการของมหาวิทยาลัยเอง รวมทั้งสล่า แพทย์พื้นบ้าน โฮงเฮียนสืบสาน ภูมิปัญญาล้านนา ชุมชนสล่าเมือง ช่างสิบหมู่ล้านนา วัด และชุมชนจำนวนมาก

ส่วนโซนศิลปะ ซึ่งเป็นอาคารหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม บนพื้นที่ 8 ไร่จะมีการปรับปรุงตกแต่งพื้นที่โดยรอบให้เป็นการพัฒนาด้านภูมิสถาปัตยกรรมและกิจกรรมด้านศิลปะ ลานกิจกรรม ร้านค้าด้านศิลปะ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่จัดกิจกรรม อาทิ กิจกรรมนิทรรศการถาวรและหมุนเวียน กิจกรรมศิลปะเด็ก กิจกรรมโรงภาพยนตร์ทางเลือกและกิจกรรมศิลปะเพื่อชุมชน เป็นต้น “โครงการซีเอ็มยู สแควร์ จะทำให้มีการใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 88 ไร่ เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและบริการวิชาการ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และยังมีพื้นที่ทำกิจกรรมทางวิชาการของนักศึกษา รวมทั้งพื้นที่อำนวยความสะดวกและให้บริการแก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด

         

สำคัญที่สุดคือ โครงการน่าสนใจมากอย่างนี้ จะเริ่มกันเมื่อใด ได้รับคำตอบว่าโครงการจะเริ่มพัฒนาในราวเดือนเมษายน 2559 คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดภายใน 2-3 ปีก็ประมาณปี 2560-2561 ทุกอย่างคงปรากฏครับท่านผู้อ่าน โปรดติดตาม อย่ากระพริบตา

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

อรุณ ช้างขวัญยืน/รายงาน

CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ