ภาครัฐ – เอกชน ในจังหวัดเชียงใหม่ ขานรับนโยบายรัฐบาล รวมพลังซื้อข้าวช่วยชาวนา ขยายตลาดข้าวประชารัฐ เปิดพื้นที่จัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ทั้งสถานที่ราชการ, คอนวิเนียนสโตร์, ช๊อป ซุปเปอร์มาร์ท และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. 24 สาขา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและส่งเสริมคนเชียงใหม่ได้บริโภคข้าวคุณภาพ
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด,สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด, สำนักงานเกษตรจังหวัด, สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด, สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด, สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด และคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกันจัดโครงการตลาดข้าวประชารัฐ ระหว่างวันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ที่สนามหน้าตลาดนัดชุมชน ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด โดยมีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสินค้า OTOP กว่า 20 ราย นำข้าวสารบรรจุถุงมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ในราคาตั้งแต่ 30 – 60 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวเชียงใหม่อย่างเนืองแน่น และยังได้รับการเรียกร้องให้ขยายจุดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ มทบ.33 มีการสั่งซื้อข้าวสารจาก สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จำนวน 1.5 ตัน และสำนักพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประสานงานกับสำนักงานสวัสดิการแรงงานเชียงใหม่ มีข้อตกลงจำหน่ายข้าวหอมมะลิ ระหว่างสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด กับโรงแรมเลอเมอลิเดียน และโรงแรมสุริยวงศ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้บริการกับแขกที่มาพักและพนักงานของโรงแรมด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้มีภาคเอกชนที่แจ้งความประสงค์ที่จะเปิดพื้นที่ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวของจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำข้าวสารบรรจุถุงไปจำหน่าย ตามโครงการตลาดข้าวประชารัฐ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 7 ราย ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต), ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต, บริษัท บิ๊กซีซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด, โครงการตลาดเพื่อการเกษตร(อตก.) สถานีบริการน้ำมัน ปตท. จำนวน 24 สาขา และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งพร้อมเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำข้าวสารบรรจุถุงไปวางจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
“การเปิดจุดจำหน่ายข้าวในรูปแบบตลาดประชารัฐเพิ่มขึ้น นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวในจังหวัดเชียงใหม่ได้โดยตรงแล้ว ยังช่วยเพิ่มช่องทางให้ประชาชนผู้บริโภคได้เข้าถึงสถานที่จำหน่ายข้าวสารคุณภาพ ที่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากที่สุด และได้บริโภคข้าวตามมาตรฐาน GAP และ GMP ได้อย่างทั่วถึง”
