พิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา

            จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา

          นายวิเชียร  พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา  จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2552 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2552 เป็นต้นมา โดยให้แยกตำบลแจ่มหลวง ตำบลบ้านจันทร์ และตำบลแม่แดด อำเภอ  แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ออกจากอำเภอดังกล่าว และรวมทั้งเป็นอำเภอกัลยาณิวัฒนา และให้ตั้งที่ว่าการอำเภอที่ตำบลแจ่มหลวง ซึ่งเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกานี้คือ เพื่อประโยชน์แก่การปกครอง การให้บริการของรัฐ ความสะดวกของประชาชน และเพื่อส่งเสริมให้ท้องที่มีความเจริญยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดทำโครงการ “อำเภอกัลยาณิวัฒนา” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อำเภอกัลยาณิวัฒนาเป็น “อำเภอต้นแบบ” ในการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่มีความสอดคล้องกับ       อัตลักษณ์ของอำเภอ ในการนี้ คณะกรรมการอำนวยการโครงการ “อำเภอกัลยาณิวัฒนา” เฉลิมพระเกียรติฯ จึงได้มอบหมายให้จังหวัดเชียงใหม่เร่งรัดการดำเนินการกำหนดกิจกรรมพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาให้   แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา และจัดเตรียมกำหนดกิจกรรมในพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาให้ชัดเจน ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมและดำเนินการจัดพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาขึ้น พร้อมทั้งได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของการเตรียมการว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากสำนักราชเลขาธิการ กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จะเสด็จพระราชดำเนินเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ในวันที่ 24 เมษายน 2557 รวมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์โรงเรียนมัธยมอำเภอกัลยาณิวัฒนา และ ยกช่อฟ้าวัดจันทร์ ในวันดังกล่าวด้วย ดังนั้น  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการ     รับเสด็จฯ และเพื่อให้การจัดพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ จังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2557 เพื่อติดตามผลการดำเนินการในการเตรียมความพร้อมของพื้นที่ศูนย์ราชการอำเภอกัลยา- ณิวัฒนาของคณะทำงานด้านต่าง ๆ ซึ่งมีผลการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ดำเนินการแล้วเสร็จทุกโครงการ ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงห้องน้ำและห้องทำงานนายอำเภอเพื่อใช้เป็นห้องประทับและห้องสรง โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมลานหน้าโรงอาหารภายในที่ว่าการอำเภอ โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก รางระบายน้ำและปรับปรุงภูมิทัศน์ โครงการก่อสร้างลานกีฬาคอนกรีตเสริมเหล็กอเนกประสงค์ ศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ โครงการปรับปรุงทางเสด็จพระราชดำเนินศูนย์ราชการฯ โครงการปรับปรุงซ่อมแซมหอประชุมที่ว่าการอำเภอกัลปยาณิวัฒนา และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมลานกีฬาอเนกประสงค์ที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา

สำหรับการเตรียมการด้านกิจกรรมนั้น สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดบูธแสดงหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โดยบูรณาการกับองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนาและอำเภอข้างเคียงเข้าร่วมกิจกรรม กำหนดจัดซุ้มนิทรรศการเกี่ยวกับการน้อมนำพระราชดำริตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางปฏิบัติ และจัดให้มีการสาธิตการส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎรเป็นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ส่วนด้านการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของราษฎรในพื้นที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นอัตลักษณ์ของราษฎรในพื้นที่เพื่อเผยแพร่ให้แขกผู้มีเกียรติและผู้เข้าร่วมพิธีเปิดศูนย์ฯ ได้ร่วมชม และด้านการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ได้จัดเตรียมกิจกรรม การแสดง มหรสพต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองในพิธีเปิดศูนย์ ฯ ตามความเหมาะสม อย่างสมพระเกียรติ ฯ แล้ว

ในส่วนของการประชาสัมพันธ์นั้น ได้กำหนดจัดให้มีการแถลงข่าวสื่อมวลชนสัญจร ณ ที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ในวันที่ 8 เมษายน 2557 เพื่อนำข้อมูลอำเภอกัลยาณิวัฒนามาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางต่อไป

สำนักข่าว