ผู้บริหารยุพราชลั่นเอาผิด “บริษัท เคแอนด์เจ เฮาลท์แคร์”

28 ส.ค. 2013

201

Spread the love

ผู้บริหารยุพราชลั่นเอาผิด “บริษัท เคแอนด์เจ เฮาลท์แคร์”ห่วยเจาะเลือดไร้นักเรียนมาตรฐาน

คณะผู้บริหารโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม่ออกแถลงข่าวผ่านสื่อดำเนินคดี บริษัทเค แอนด์ เจ เฮลท์แคร์ จำกัดไม่มีมาตรฐานในการตรวจรักษา โดยเฉพาะการเจาะเลือดที่ไม่เปลี่ยนเข็มเจาะผู้ปกครองนักเรียนหวั่นจะส่งผลกระทบสุขภาพร่างกายนักเรียน

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 27 ส.ค.56 ที่ผ่านมานายรังสฤษฎิ์ เอี่ยมสะอาด รองผู้อำนวยการฝ่ายดูแลกิจการนักเรียน โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่มีการเสนอข่าวว่ามีบริษัทเอกชนซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่เคยเข้าตรวจในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีที่เป็นข่าวว่าไม่มีมาตรฐานในการตรวจรักษา โดยเฉพาะการเจาะเลือดที่ไม่เปลี่ยนเข็มเจาะ จนทำให้เด็กนักเรียน ผู้ปกครองของนักเรียน รวมถึงบุคลากรในโรงเรียนหวั่นวิตกว่าจะได้มีผลกระทบต่อร่างกายของนักเรียน ซึ่งบริษัทเค แอนด์ เจ เฮลท์แคร์ จำกัด ที่ได้รับคัดเลือกให้ตรวจสุขภาพประจำปี 2556 แก่นักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียนในระหว่างวันที่ 8 – 12 กรกฎาคม 2556 และเป็นบริษัทชื่อเดียวกับที่เกิดเหตุการณ์ ที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม จังหวัดสระบุรีนั้น ทางโรงเรียนได้มีความตระหนักในความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปีแก่นักเรียน ครูและบุคลากรของโรงเรียน เพื่อพัฒนาส่งเสริมการดูแลสุขภาพในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน และตัวชี้วัดตามมาตรฐานการศึกษา และมาตรฐานการประเมินโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ จึงได้อนุมัติให้งานอนามัยโรงเรียน จัดทำโครงการส่งเสริมการดูแลสุขภาพในโรงเรียน ประกอบด้วยกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอื่นๆ ให้กับครู นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน โดยปฏิบัติต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานคืองานอนามัย ฝ่ายบริหารทั่วไปของโรงเรียน จัดทำโครงการอนุมัติดำเนินการ จากนั้นโรงเรียนได้อนุมัติโครงการ บรรจุในแผนปฏิบัติการประจำปี และตั้งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อขอความเห็นชอบในการเก็บเงินระดมทรัพยากร เป็นค่าตรวจสุขภาพประจำปีจากนักเรียนรายละ 100 บาท

จากนั้นทางโรงเรียนได้แจ้งในที่ประชุมผู้ปกครองให้ทราบ เกี่ยวกับการเก็บเงินระดมทรัพยากรเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี และประชาสัมพันธ์ให้ องค์กร หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสุขภาพให้รับทราบและยื่นประมูลตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งบริษัท เค แอนด์ เจ เฮลท์แคร์ จำกัด ก็เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ยื่นเข้ามา จากนั้นทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินงานคัดเลือกผู้ประมูล จำนวน 5 ท่าน และรายงานผลการคัดเลือกต่อผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเห็นว่าบริษัทดังกล่าวนั้น ให้สิทธิในการรักษาแก่นักเรียนมากที่สุด และเพื่อประโยชน์ของนักเรียนจึงได้เลือกบริษัทดังกล่าว หลังจากที่ทางคณะกรรมการเห็นชอบแล้ว ก็ได้ส่งข้อมูลให้กับทางผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ จากนั้นฝ่ายบริหารทั่วไป ก็ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกผู้ประมูลการตรวจสุขภาพประจำปีของโรงเรียนและจัดทำสัญญาว่าจ้าง กำหนดวัน เวลา ในการตรวจสุขภาพ โดยทางโรงเรียนพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมดูแลการตรวจสุขภาพตามวัน และสถานที่ที่กำหนด และให้ตรวจสุขภาพในระหว่างวันที่ 8 – 12 กรกฎาคม 2556 จำนวนนักเรียนประมาณ 3,000 คน และบุคลากรอีกประมาณ 200 คน ซึ่งได้เน้นนักเรียนในชั้น ม. 1 และ ม.4 เป็นหลัก

นอกจากนี้ในการตรวจสุขภาพของนักเรียนหรือบุคลากรนั้น หากท่านใดที่ไม่ประสงค์จะทำการตรวจสุขภาพ เพราะได้ผ่านการตรวจมาแล้ว ทางโรงเรียนก็จะทำการยกเว้นให้ โดยนำผลที่ได้รับมาเป็นข้อมูลประกอบรายงานของโรงเรียน ซึ่งก็มีผู้นำมายื่นบางส่วน และส่วนที่ไม่ได้ตรวจก็เข้ารับการตรวจตามที่ทางโรงเรียนได้จัดไว้ และในระหว่างการตรวจสุขภาพนั้น ทางโรงเรียนได้รับแจ้งว่าบริษัทดังกล่าว ได้ทำการตรวจวัดสายตาและจะทำการตัดแว่นตาให้โดยมีค่าใช้จ่าย อีกทั้งได้มีการโน้มน้าวผู้ปกครองของนักเรียนที่มาร่วม ให้เข้าตรวจวัดสายตา และให้ตัดแว่นสายตาด้วย เมื่อทางโรงเรียนทราบ ก็ได้สั่งให้ระงับทันที กระทั่งต่อมาได้มีกระแสข่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องบริษัทดังกล่าว ทำให้กลุ่มนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากร เกิดความกังวลว่าจะเหมือนที่ จ.สระบุรีหรือไม่ เพราะเห็นว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนเข็มในการตรวจ จึงเกิดความกลัวกันไป โดยเฉพาะในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือเฟสบุ๊ค เพราะทุกคนรู้ว่าการใช้เข็มร่วมกันนั้นจะอันตรายแค่ไหน และสามารถทำให้ติดโรคร้ายแรงได้ แต่ในวันที่ตรวจนั้นไม่เฉพาะนักเรียนเท่านั้น ทางบุคลากรของโรงเรียนก็เข้าตรวจ แต่ก็ไม่เห็นถึงความผิดปกติเหมือนกับที่สระบุรี และทางบริษัทดังกล่าวได้ติดต่อมาว่าจะขอให้ทนายความเข้ามาพูดคุย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งใครมา และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้เลย ดังนั้นในขณะนี้จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสาร และสัญญาที่ได้ดำเนินการ และได้ชี้แจงต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี สมาคมผู้ปกครองและครูยุพราชวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา และทางด้านายวิษณุ ไชยแก้วเมร์ ผู้อำนวยการฯ ก็ได้ชี้แจงต่อนักเรียนหน้าเสาธงตอนเช้าเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และแจ้งว่าทางโรงเรียนพร้อมดำเนินการตรวจสอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริษัทตรวจสุขภาพของโรงเรียน หากพบความผิดจากการกระทำการตรวจสุขภาพของนักเรียน ไม่ว่ากรณีใดๆ โรงเรียนจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิ และประโยชน์ของครูและนักเรียนผู้รับการตรวจสุขภาพ และทางโรงเรียนจะทำการตรวจเลือดให้นักเรียนที่มีความประสงค์ และสมัครใจตรวจเลือดใหม่ โดยสมาคมผู้ปกครองและครู จะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายเอง

สุดท้าย นายรังสฤษฎิ์ เอี่ยมสะอาด ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่าว่า บริษัทที่เข้าตรวจสุขภาพครั้งนี้ ได้เข้ามาตรวจเป็นปีแรก ซึ่งในปีถัดไปทางโรงเรียนก็จะมีการตรวจสอบบริษัทที่เข้ามามากกว่านี้ และอาจจะหาทางออกด้วยการไปใช้หน่วยงานของทางภาครัฐแทน ถึงแม้จะยกเลิกไปกว่า 10 ปีแล้ว เพราะทราบว่าบุคลากรของทางภาครัฐนั้นไม่พอ จึงทำให้ทางโรงเรียนต้องหันมาให้ทางบริษัทเอกชนเข้ามาตรวจสุขภาพดังกล่าว อย่างไรก็ตามก็จะได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหารือเพื่อวางแนวทางการแก้ไขในเรื่องนี้และจะดำเนินคดีกับบริษัทเค แอนด์ เจ เฮลท์แคร์ จำกัด ให้ถึงที่สุด