ผลเลือกตั้งพม่าพรรคNLDชนะขาดลอย
อองซาน ซูจี จะบริหารประเทศอย่างไร?
พม่า หรือ เมียนมาร์ ประกาศผลเลือกตั้งเป็นทางการแล้วครับ พรรคเอ็นแอลดีของนาง “อองซาน ซูจี” ได้387ที่นั่ง คิดเป็น78%จากส.ส.ทั้งหมด498 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากในสภา
มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาร์ ประกาศผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการแล้ว ปรากฏว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเอ็นแอลดีกวาดไปแล้วถึง 387 ที่นั่งจากทั้งหมด 498 ที่นั่ง คิดเป็น 78% ไม่รวมที่นั่งที่กันไว้สำหรับทหารและอดีตนายทหาร ส่วนพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา หรือยูเอสดีพีของรัฐบาล ได้ที่นั่งจากการเลือกตั้งไปเพียง 41 ที่นั่ง ส่งผลให้พรรคเอ็นแอลดี จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อบริหารประเทศได้
ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กล่าวกับบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมจากเกือบ 90 พรรคการเมือง ที่นครย่างกุ้งทันทีที่ทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ว่า รัฐบาลได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าต้องการเดินหน้าปฏิรูปการเมืองและสามารถลบภาพลักษณ์ของประเทศที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคม อย่างสิ้นเชิงแล้ว ทั้งยังทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ลุล่วงไปได้ด้วยดีตามสัญญา จากนี้ไปจะเดินหน้ากระบวนการถ่ายโอนอำนาจอย่างราบรื่น ให้รัฐบาลชุดใหม่ได้บริหารประเทศต่อไป
แต่สิ่งที่ เต็งเส่ง กล่าวจะเป็นไปได้หรือไม่ เราลองมาดูนี่ก่อน
1) รัฐธรรมนูญพม่าระบุว่า 25 % ( 116 คน) ของ สส. มาจากการแต่งตั้งจากทหาร และ ยังระบุให้เลือกรองประธานาธิบดี 2 คน ซึ่ง 1 ในนั้นถูกกำหนดให้มาจากทหาร
2) รัฐธรรมนูญระบุคุณสมบัติของประธานาธิบดี ต้องไม่มีบุตรที่เป็นต่างด้าว ทำให้อองซานซูจี ขาดคุณสมบัติการเป็นประธานาธิบดี
3) รัฐธรรมนูญ ยังระบุว่ารัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆมาจากการแต่งตั้งของทหาร เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงชายแดน ซึ่งทำให้รัฐบาลไม่สามารถคุมทหารได้เลย
4) รัฐธรรมนูญ ยังไม่ให้อำนาจรัฐบาลในการดูแลตำรวจ กระบวนการยุติธรรม ฝ่ายความมั่นคง หรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อย
5) รัฐธรรรมนูญยังระบุว่างบประมาณของประเทศ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลาโหมให้ทหารเป็นผู้กำหนด และงบประมาณส่วนที่เหลือจากนั้นรัฐบาลถึงนำมาใช้ได้
6) รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้มีสภาความมั่นคงมีอำนาจสูงสุด ให้มีกรรมการ 11คน โดย 6 คนมาจากการแต่งตั้งของทหาร (เสียงข้างมาก ) มีอำนาจเหนือรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร สามารถยกเลิกนโยบายหรือการตัดสินใจของรัฐบาลได้
7) รัฐธรรมนูญยังกำหนดเงื่อนไขให้ทหารสามารถยึดอำนาจการบริหารจากรัฐบาลได้ หากมีสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือเกิดปัญหาความปรองดอง
8) การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงสนับสนุนเกิน 75% ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถแก้ไขได้หากทหารไม่เห็นด้วย เพราะสส.ที่แต่งตั้งจากทหารมี 25 %
แบบนี้เรียกว่าประชาธิปไตยแบบหัวมงกุฎท้ายมังกร หรือบ้านเราก็ต้องบอกว่า เป็นประชาธิปไตยแค่ครึ่งใบ ก็ได้
ตอนนี้ก็ต้องดูว่า นางอองซาน ซูจี จะบริหารประเทศอย่างไร เพราะแทบไม่มีอะไรเลยทั้ง อำนาจ งบประมาณ น่าปวดหัวเป็นอันมาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้าออนไลน์………………
อรุณ ช้างขวัญยืน เรียบเรียงและรายงาน……………..