วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ผลักดันเชียงใหม่ให้เป็น MICE Destination นครแห่งชีวิตและความมั่นคง

16 ม.ค. 2013
244
Spread the love

ผลักดันเชียงใหม่ให้เป็น MICE Destination นครแห่งชีวิตและความมั่นคง

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิเทศการ (องค์การมหาชน)หรือทีเส็บ พร้อมด้วย 8 หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์ หรือChiangMaiCreativeCityและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในนามผู้แทนมหาวิทยาลัยภาคเหนือ 8 แห่ง ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์เพื่อร่วมมือวางแผนกรอบแผนแม่บทการทำงานเพื่อพัฒนาและผลักดันเชียงใหม่ให้เป็น MICE Destination นครแห่งชีวิตและความมั่นคงและนครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม อีกทั้งเพื่อผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ MICE ของประเทศและภูมิภาคอาเซียนในระยะเวลา 5 ปี

เมื่อวันที่ 15 ม.ค 2556 เวลา 14.00 น. ณ ห้องเชียงรุ้ง โรงแรมรติลานนา  นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และนายธงชัย ศรีดามากรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สสปน. ร่วมแถลงข่าวการประกาศเจตนารมณ์ร่วมการดำเนินยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์จังหวัดเชียงใหม่

ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญในภาคเหนือและยังสามารถเชื่อมไปยังประเทศเพื่อบ้านที่มีศักยภาพ แม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเมืองที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจ แต่คนส่วนรู้จักเชียงใหม่ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม จึงทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดขึ้นกับฤดูท่องเที่ยวเป็นหลัก และขาดการส่งเสริมธุรกิจในภาพรวม ซึ่งการกำหนดแผนแม่บทและวางยุทธศาสตร์ให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์จะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาในทุกด้านรวมทั้งสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปี ซึ่งการพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นในกรอบของอาเซียน หรือ AEC โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือกรอบความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจระหว่าง 7 ประเทศในอ่าวเบงกอลจะทำให้ความต้องการด้านการจัดประชุมและนิทรรศการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการจัดประชุมและนิทรรศการจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการต่อยอดธุรกิจ สร้างโอกาสในเชิงเศรษฐกิจและความร่วมมือในด้านต่างๆ เชียงใหม่ในฐานที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและมีศักยภาพ จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อรองรับโอกาสเหล่านี้

สำหรับศักยภาพด้านสาธารณูปโภคของจังหวัดเชียงใหม่ในการผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นนครแห่งไมซ์คือการมีจำนวนโรงแรมและห้องพักภายในจังหวัดเชียงใหม่รวมกว่า 33,000 ห้อง สนามบินนานาชาติใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยรองจากสนามบินสุวรรณภูมิปละสนามบินดอนเมือง มีการบินภายในประเทศสัปดาห์ละ 401 เที่ยว และการบินระหว่างประเทศสัปดาห์ละ 76  เที่ยว ปัจจุบันสนามบินนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่รองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี และรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ปีละ 30,000 ตัน มีเที่ยวบินขึ้นลงรวม 12,377 เที่ยวบิน และในฤดูช่วงท่องเที่ยวมีสายการบินอีก 7 สายการบินเพิ่มเที่ยวบินและเปิดเส้นทางบินตรงสู่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มเติมได้แก่ สายการบินแอร์บากัน สายการบินไชน่าอีสเทิร์น สายการบินโคเรียนแอร์ สายการบินซิลค์แอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไชน่าแอร์ไลน์ และสายการบินแอร์เอเชีย

ด้านนายธงชัย ศรีดามากรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สสปน. เผยว่า ความร่วมมือในการกำหนดกรอบพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการจัดงานไมซ์เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะนักเดินทางกลุ่มไมซ์ใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2-3 เท่า และช่วยสร้างธุรกิจตลอดทั้งปี การประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี นำสู่ความสำเร็จหลายๆด้าน โดยทางทีเส็บพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเมืองเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะผลักดันให้พัฒนาเชียงใหม่ไปสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไมซ์เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งให้เชียงใหม่ พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ยกระดับมาตรฐานบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่จัดประชุม สถานที่ท่องเที่ยว อื่นๆ ตลอดจนกระตุ้นการค้า การลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดยกรอบการจัดทำแผนแม่บทการทำงานเพื่อพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งไมซ์-นครแห่งชีวิตและความมั่นคั่ง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือในระยะแรกปี 2556 เน้นการทำการตลาดในประเทศและวางรากฐานอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในด้านการกำหนดเป้าหมายให้เชียงใหม่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ การรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจและขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งส่งเสริมการจัดประชุมของตลาดในประเทศ ส่วนในระยะที่ 2 ระยะระหว่างปี 2557-2558 การขยายการส่งเสริมออกไปในระดับภูมิภาคผ่านกรอบความร่วมมือ GMS , BIMSTEC และเมืองพี่เมืองน้องของจังหวัด การขยายตลาดร่วมกัน โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจและวัฒนธรรม และในระยะที่ 3 ระหว่างปี 2559-2560 คือ การเร่งพัฒนาและประกาศความพร้อมในการเป็นนครแห่งไมซ์ระดับโลก ส่งเสริมการจัดงานระดับใหญ่หรือการประชุมสัมมนาในระดับโลกต่อไป และหลังจากนี้จังหวัดเชียงใหม่และทีเส็บจะได้นำกรอบแนวทางการจัดทำแผนแม่บทการทำงานเพื่อพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางไมซ์-นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่งนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบต่อไป

ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่มีมูลค่าในอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศคิดเป็นจำนวน 3,355.9 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศจำนวน 19,261 คน คิดเป็นมูลค่า 82.19 ล้านบาท และนักเดินทางกลุ่มไมซ์ชาวต่างชาติจำนวน 40,718 คน สร้างรายได้กว่า 3,273.7 ล้านบาท และมีอัตราการจัดงานในอุตสาหกรรมในจังหวัดทั้งสิ้นรวม 427 ครั้งต่อปี ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว.

สำนักข่าว 
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน