ผบ.ตร.เผยแผนดูแลกลุ่มม็อบสนามม้า หวั่นมือที่ 3 ระเบิดป่วน รับผิดชอบหากเกิดเหตุร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันนี้ 23 พ.ย.55 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. ในฐานะรองผอ.ศอ.รส.และเลขาธิการศอ.รส. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในฐานะ ผบ.กองกำลัง พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. นายมนัสวี ศรีโสดาภณ อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศร่วมกันแถลงแผนปฏิบัติการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม
โดยพล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ร่วมกันหลายฝ่าย แกนนำผู้ชุมนุมประกาศว่าจะมาเป็นจำนวนเป็นล้านคน หรืออย่างน้อยก็ 5 แสนคน จึงมีความกังวล แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประเมินตัวเลขผู้ชุมนุมอยู่ที่ 4 หมื่นคน และสัปดาห์นี้ ตัวเลขอยู่ที่ 5 หมื่นคน ซึ่งการชุมนุมจะมีต่อเนื่อง 2-3 วัน หรืออาจนานกว่าน้้น เนื่องจากมีการเตรียมเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม เสื้อกันฝน น้ำส้มสายชู เงินสด ที่สำคัญเกรงว่าจะมีการขว้างระเบิดเข้าไปในสถานที่สำคัญ จึงเห็นควรประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุมากกว่าปราบปราม
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในเขตพื้นที่หวงห้าม ใน 3 เขต ประกอบด้วย ดุสิต ป้อมปราบ และพระนคร รวม 9 วัน แต่หาก การชุมนุมเลิกเมื่อไหร่ก็จะเลิกประกาศ โดยขอให้ตระหนักว่าผู้ชุมนุมมีสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ ที่สามารถชุมนุมได้โดยปราศจากอาวุธ ไม่ละเมิดสิทธิบุคคลอื่น เจ้าหน้าที่ก็จะทำงานตามกฎหมายตามหลักการใช้กำลัง แต่ก็มีความเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 ที่อาจจะเข้ามาทำให้เกิดการยกระดับความรุนแรงได้
“เราจะไม่มีการสลายการชุมนุม แต่การใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการชุมนุม ให้รัฐมีความชอบธรรมในการปฏิบัติ เราจะทำทุกอย่างให้ในการดูแลความปลอดภัยประชาชน และจะทำทุกขั้นตอนอย่างเป็นธรรมชอบธรรมเน้นให้ตำรวจต้องอดทนอดกลั้นกับพี่น้องประชาชน”ผบ.ตร.กล่าว
ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ในฐานะผู้อำนวยกาศอ.รส.จะเป็นผู้รับผิดชอบและตัดสินในในการใช้กำลัง และมีอำนาจในการบูรณาการกำลังทั้งหมด เบื้องต้นจะใช้กำลังตำรวจจำนวน 200 กองร้อย มีกำลังสารวัตรทหาร 150 นาย กอ.รมน.200นายเตรียมไว้ณที่ตั้ง
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า หากการชุมยืดเยื้อ แล้วไปตรงกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนได้มอบหมายให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูความปลอดภัยส.ส.ที่จะเข้าประชุม และเตรียมเปิดเส้นทางไว้แล้ว สำหรับแนวทางการปฏิบัตินั้นก่อนเจ้าหน้าที่จะใช้อุปกรณ์ เช่น แก๊สน้ำตา ก็จะมีการชี้แจงก่อนทุกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่ได้ไล่ตามลำดับเหมือนการใช้แผนกรกฎ 52 แต่ให้ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับสถานการณ์.
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน