ประท้วงในยูเครนเสียชีวิตอีกกว่าร้อยคน
ยูเครนตึงเครียดหนัก การเจรจาสงบศึกระหว่างรัฐบาลกับแกนนำฝ่ายค้านไม่เป็นผล เมื่อผู้ประท้วงเปิดศึกปะทะกับตำรวจปราบจลาจลรอบใหม่ราวกับฉากสงครามกลางเมือง มีผู้เสียชีวิตไปอีกกว่าร้อยคน ขณะที่สหภาพยุโรปตัดสินใจลงดาบอายัดทรัยพ์เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ประท้วงและห้ามเดินทางเข้าสหภาพยุโรป
กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนกลายเป็นแดนมิคสัญญี เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเปิดศึกปะทะกับตำรวจจลาจลรอบใหม่ในย่านใจกลางเมือง ทำลายความหวังการเจรจาสงบศึกระหว่างประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช กับแกนนำฝ่ายค้าน ซึ่งเปิดหารือกันได้ไม่นานก่อนที่ความรุนแรงจะปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของยูเครนต้องยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ขว้างก้อนหินและระเบิดเพลิงเข้าใส่ขณะพยายามรุกคืบเข้าประชิด ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากกลุ่มผู้ประท้วงว่าตำรวจใช้พลแม่นปืนซุ่มโจมตี หน่วยแพทย์ของกลุ่มผู้ประท้วงเปิดเผยว่าการปะทะกันเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอีกกว่าร้อยคน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ขณะที่รัฐบาลยูเครนยังไม่เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้แพทย์ของโรงพยายาลหมายเลข 17 ในย่านใจกลางกรุงเคียฟยืนยันว่าจากการตรวจพิสูจน์พบว่ากระสุนที่ยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง เป็นกระสุนจากปืนเอเค-47 หรือที่รู้จักกันในชื่อ คาลาชนิคอฟ (Kalasnikov)
ยอดผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงกว่าร้อยคน ทำให้การปะทะกันเมื่อวานนี้เป็นการประท้วงนองเลือดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่ที่กลุ่มฝ่ายค้านเริ่มชุมนุมต่อต้านรัฐบาลมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ขณะที่โทรทัศน์ของยูเครนได้แพร่ภาพผู้ประท้วงถูกยิงล้มทางเท้าและเพื่อนได้เข้ามาช่วยนำตัวออกไป ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล
ด้านนายวิทาลี ซัคฮาร์เชนโก้ รัฐนมตรีมหาดไทยของยูเครน กล่าวแถลงการทางโทรทัศน์ว่า ตำรวจจะใช้กระสุนจริงหากถูกโจมตีจากผู้ประท้วงและเพื่อพิทักษ์ความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้ออกแถลงการเพื่อสร้างความกดดันกับกลุ่มผู้ประท้วง โดยระบุว่ารัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังเพื่อช่วยเหลือตำรวจ 70 นายที่กลุ่มผู้ประท้วงจับเป็นตัวประกัน
ขณะที่มีรายงานว่า นายโวโลดิมียร์ มาคีนโก้ (Volodymyr Makeenko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศลาออกจากพรรครัฐบาลและมีคำสั่งให้เปิดใช้ระบบขนส่งมวลชนของเมืองอีกครั้ง หลังรัฐบาลปิดระบบขนส่งเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมที่จัตุรัสเอกราชในย่านใจกลางกรุงเคียฟ
การประท้วงนองเลือดในยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ สร้างความวิตกให้กับประชาคมโลก ล่าสุดสหภาพยุโรป หรือ อียู ตัดสินใจดำเนินมาตรการลงโทษรัฐบาลยูเครนที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ด้วยการอายัดทรัพย์เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนที่ส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ประท้วงและห้ามเดินทางเข้าสหภาพยุโรป ขณะที่รัสเซีย ประกาศจะส่งผู้ไกล่เกลี่ยเข้าไปหาทางยุติศึกนองเลือดในยูเครน
