ประชุมเตรียมการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ลำไยและลิ้นจี่

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 5 ) เวลา 11.30 น. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางตรวจราชการใน จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องเข้าร่วม ทั้งนี้ภาพรวมทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ มีผลผลิตลิ้นจี่ ที่ออกสู่ตลาดแล้ว 24.34% หรือ 1.4 หมื่นตัน จากทั้งหมด 5.9 หมื่นตัน ส่วนลำไย คาดการณ์จะมีผลผลิต 690,193 ตันโดยการเตรียมการขอคณะอนุกรรมการผลิตกลุ่มสินค้าลำไย ปี 2557 ระยะสั้น คาดว่าจะมีผลผลิตส่วนเกิน 136,870 ตัน มีการจัดการใน 3 มาตรการ 1.กระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิต 2.ส่งเสริมการแปรรูป 3.ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการบริโภคลำไย ส่วนในระยะยาวใช้ยุทธศาสตร์บริหารการผลิตกลุ่มลำไยใน 3 โมเดลการทำงาน 1.พัฒนาศักยภาพการผลิตลำไยในฤดูคุณภาพ 2.พัฒนาศักยภาพการผลิตลำไยนอกฤดูคุณภาพ 3.พัฒนาศักยภาพการผลิตลำไยอินทรีย์คุณภาพ และประชาสัมพันธ์งานลิ้นจี่ดีที่เชียงใหม่ เป็นการจัดงานเพื่อส่งเสริม การกระจายสินค้าลิ้นจี่ ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับจังหวัดอุดรธานีเป็นคู่ค้า นำลิ้นจี่กระจายสินค้าไปยังภาคอีสาน ลิ้นจี่นั้น มีพื้นที่ปลูกคือจังหวัดเชียง ใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน เนื้อที่ 120,000 ไร่ ปีนี้คาดว่าให้ผลผลิต 59,000 ตัน พันธุ์ฮงฮวยมากที่สุด รองลงมาคือพันธุ์จักรพรรดิ โดยปีนี้ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 28 หรือหมื่นสองพันตัน ช่วงที่ออกผลผลิตมากที่สุดคือ พฤษภาคม ถึง มิถุนายน 2557นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า สำหรับ ลิ้นจี่ไม่น่ามีปัญหา เพราะผลผลิตมีน้อย แต่เป็นห่วงลำไย ซึ่งออกมาก จะใช้โครงสร้างของกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่แล้ว ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นศูนย์กลางในการประสานกับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศในการนำผลผลิตลำไยไปจำหน่าย คือการระบายพืชผลทางการเกษตรออกไปทุกจังหวัด เพื่อกระจายผลผลิตแบบเน็ตเวิร์ค โดยมีพาณิชย์จังหวัดละหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง โดยจะประสาน รมว.มหาดไทย อีกทางหนึ่ง รวมถึงการใช้มาตรการอื่นๆ ทั้งการส่งเสริมการแปรรูป การอบแห้ง ทั้งนี้ ยอมรับว่า เนื่องจากรัฐบาลขณะนี้ยังเป็นรัฐบาลรักษาการจึงไม่สามารถอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างเต็มที่ เพราะติดข้อกฎหมายเลือกตั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางและใช้งบประมาณที่มีอยู่มาใช้แก้ปัญหาต่อไป ซึ่งยังมั่นใจว่าจะรับกับสถานการณ์ได้ต่อจากนั้น เวลา 14.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง ได้เดินทางไปยังข่วงสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ การติดตามแนวทางดำเนินงานศูนย์แสดง จำหน่ายกระจายสินค้า OTOP ข่วงสันกำแพง เป็นการนำสินค้าของชาวบ้านที่มีฝีมือ เผยแพร่ทั่วประเทศ และไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างรายได้นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า การดำเนินงานศูนย์แสดง จำหน่ายกระจายสินค้า OTOP ข่วงสันกำแพง ต้องให้ความสำคัญกับสินค้าที่จะขายได้ดีนั้นรูปแบบต้องเป็นที่นิยมของผู้ซื้อ และมีคุณภาพ ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ศูนย์แสดง จำหน่ายกระจายสินค้า OTOP ข่วงสันกำแพงก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ มีการเตรียมการสถานที่ ปรับภูมิทัศน์ในการแสดงสินค้า อาจจะมีการสาธิตการทำสินค้า OTOP เพื่อสร้างความน่าสนใจแก่ผู้ซื้อ อำเภอสันกำแพง มีชื่อเสียงทางด้านผ้าฝ้าย ร่มบ่อสร้าง เป็นจุดเด่น ต้องสร้างแรงจูงใจให้คนอยากซื้อสินค้า OTOP และมาที่นี่ต้องมีสินค้าครอบคลุม โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมกันคิดทั้งด้านการตลาดและด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยว หรือการนำทัวร์มาเลือกซื้อสินค้าเพื่อนำไปเป็นของฝาก

สำนักข่าว