ประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

Spread the love

ประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ที่จังหวัดเชียงใหม่

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ณ อาคารนิทรรศการ 2 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ 20 มกราคม 2557 เมื่อเวลา 08.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับเครื่องบินพระที่นั่งถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5  แม่ทัพภาคที่ 3  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5  ผู้บังคับการกองบิน 41 และข้าราชการ เฝ้ารับเสด็จ  จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง  เสด็จไปเป็นองค์ประธานการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ณ อาคารนิทรรศการ 2 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและข้าราชการ เฝ้าฯรับเสด็จ  ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และโรงเรียนพระปริยัติธรรม  ร่วมกับสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จึงจัดประชุมวิชาการ “การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีขึ้น เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานระหว่างผู้ปฏิบัติงานร่วมกัน  ทรงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร โดยมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย  ด้านการศึกษา  ด้านการส่งเสริมอาชีพ  ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   ทั้งนี้ ทรงยึดหลักการอนุรักษ์วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมสิ่งที่ดีงามของท้องถิ่นเป็นหลักการสำคัญ โดยทั้ง 4 หน่วยงานได้ดำเนินกิจกรรมการศึกษาในระบบ นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในพื้นที่เป้าหมาย ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งทางด้านการส่งเสริมอาชีพ การสร้างเครือข่าย มีระบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต มุ่งให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมทั้ง ด้านความเป็นอยู่ สุขอนามัย พร้อมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ ชุมชน สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ และแหล่งน้ำในชุมชน โดยเฉพาะการจัดการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนที่ไม่สามารถเข้าเรียนในระบบโรงเรียนได้ ควบคู่กับการพัฒนาความรู้ของประชาชนอีกด้วย.

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน