วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

ประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ

Spread the love

             การประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่

มลพิษเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่จัดการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ และการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ภายใต้ชื่อ “60 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมมลพิษหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่”

เมื่อวันที่ (11 ก.พ.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 เพื่อประเมินสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2558 เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่ร่วมดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าวตลอดห้วงระยะเวลาของการดำเนินงานระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2558 ภายใต้ชื่อ “60 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่”รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ขึ้น ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานประจำศูนย์ ฯ ขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยมีการประชุมเพื่อร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัญหาและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปี 2557 คุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2558 การปรับงบประมาณจังหวัด และกลุ่มจังหวัด จากการฝึกอบรมเพื่อที่จะสร้างแนวกันไฟเพิ่มเติมใน 6 พื้นที่วิกฤติที่เกิดจุดฮอตสปอตจำนวนมากใน 6 พื้นที่ ได้แก่ อำเภออมก๋อย สะเมิง แม่แจ่ม จอมทอง เชียงดาว และฮอด ซึ่งจะทำในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่เสี่ยงตำบลที่เกิดวิกฤติในปีที่ผ่านมามีค่าเกิน 75 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ และพร้อมจะนำภาคส่วนเอกชน มามีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ อาทิ ชมรมเอ็นดูโร่มอเตอร์ไซต์วิบากจังหวัดเชียงใหม่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ประสานงานกับทางกองทัพอากาศ เพื่อเตรียมการขอเครื่องบินมาสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ เพื่อสร้างเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ในการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมการร่วมมือบูรณาการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งงบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่า หมวดโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างจิตสำนึก และความตระหนักในการดูแล รักษา อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งไว้ที่ 5 ล้านบาท อาทิ โครงการซ้อมแผนการควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โครงการพ่นละอองน้ำ เพื่ออากาศสดใส เชียงใหม่ไร้หมอกควัน ดำเนินการภายในอำเภอเมือง ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม – 10 เมษายน 2558 รถน้ำจำนวน 2 คัน ติดตั้งป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกันและควบคุมปัญหาหมอกควันและไฟป่า โครงการจัดทำคู่มือ รณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน จำนวน 20,000 เล่ม มอบให้ทุกอำเภอ โครงการฝึกอบรมวิธีการทำปุ๋ยหมักจากเศษกิ่งไม้ใบไม้และเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดตั้งศูนย์บริการรับแจ้งเหตุ (Call Center) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-998333 ต่อ 199 ให้บริการดับไฟไหม้หญ้าและขยะ ตลอด 24 ชั่วโมงเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน การจัดระบบเตือนภัย จัดตั้งศูนย์แจ้งเหตุมลพิษทางอากาศและปัญหาหมอกควัน (Call Center) เพิ่มสายตรวจเทศกิจ และจัดทีมดับเพลิงเคลื่อนที่เร็ว ดำเนินโครงการปุ๋ยหมักอินทรีย์จากเศษกิ่งไม้ใบไม้ แขวงทั้ง 4 ให้บริการเก็บรวบรวมกิ่งไม้ใบไม้อย่างทั่วถึงทั้ง 96 ชุมชน ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง ประสานขอความร่วมมือในการควบคุมฝุ่นละออง จากการก่อสร้างอาคาร และการขนส่งวัสดุทางการก่อสร้าง บังคับใช้กฎหมาย กรณีที่การก่อสร้างอาคาร หรือการขนย้ายวัสดุ ก่อให้เกิดฝุ่นละออง และจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เติมรักให้อากาศ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. ณ ประตูท่าแพ มีกิจกรรมปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ กวาดล้างถนน ไหล่ทาง ทำความสะอาดเมือง การสาธิตการตรวจควันดำรถยนต์ของกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ การเปิดน้ำพุรอบคูเมือง 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ทางด้านมาตรการทางกฎหมาย จัดทำประกาศเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่ง บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดในกรณีฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ในกรณีที่คุณภาพอากาศ อยู่ในระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน จัดเตรียมและแจกผ้าปิดจมูกแก่ประชาชน และกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก คนชรา ผู้ป่วยทางเดินหายใจมณฑลทหารบกที่ 33 จัดชุดปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง กองบัญชาการเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าละหมอกควันกองทัพภาคที่ 3 เตรียมพร้อมชุดควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีประกาศจังหวัดเชียงใหม่ 4 ฉบับดังนี้ 1.เรื่อง กำหนดเขตควบคุมไฟป่าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ คือเมื่อมีความจำเป็นต้องเผาวัชพืชที่ดินทำกิน ต้องขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ในเขตปกครองท้องที่นั้นๆ ก่อนที่จะดำเนินการทุกครั้ง พร้อมจะต้องจัดทำแนวกันไฟและควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ หากราษฎรไม่แจ้งต่อกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน หรือขออนุญาตแล้วแต่ไม่จัดทำแนวกันไฟ และมิได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ของตนครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้ป่า ให้แจ้งต่อนายอำเภอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ราษฎรที่ฝ่าฝืน 2.เรื่อง มาตรการป้องกันการจุดไฟเผาป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากไฟป่า และให้ราษฎรได้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่จึงห้ามการเผาป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยเด็ดขาด หากมีการจุดไฟเผาป่าหรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติจะต้องได้รับโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 3.เรื่อง ขอความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมการเผาป่าและการเผาในที่โล่ง เพื่อเป็นการขยายผลการดำเนินงานตามวาระของจังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมการเผาป่าและเผาในที่โล่งแจ้ง ให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกหน่วยงานปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีในการงดเผาทุกชนิดในเขตรับผิดชอบ ละควบคุมการเผาทุกชนิด 4.เรื่อง มาตรการป้องกันการจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรและให้ราษฎรมีส่วนร่วม จังหวัดเชียงใหม่จึงห้ามการเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรโดยเด็ดขาด หากมีการจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรจะต้องได้รับโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 5.เรื่อง การกำหนดวันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมมลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ และได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ (Kick Off) แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้กำหนดช่วงเวลาควบคุมการเผา 60 วัน (ช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15เมษายน 2558) ภายใต้ชื่อ “60 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมมลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่” ซึ่งคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมโครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโรง มีค่าระหว่าง 81 – 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า หากพบไฟป่า ผู้ที่เผาป่าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกรายและมีรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส รายละ 5,000 บาท ขอความร่วมมือโทรแจ้งที่หมายเลข ดังต่อไปนี้ 1.สถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5323 2019 2.ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5352 5128, 08 1980 6412 3.สำนักการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) หมายเลขโทรศัพท์ 0 5327 1610 4.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า หมายเลขโทรศัพท์ 0 5323 2019 5.งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องการบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5399 8333 ต่อ 199 6.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5321 3872, 0 5322 1470 / สายด่วน 1784 7.เทศบาลนครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5323 4444 8.ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5311 2615-6 9.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 33 หมายเลขโทรศัพท์ 0 5324 9345 10.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5311 2725-6

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ