บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)จัดกิจกรรมร่วมสัมภาษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.แสนสิริ
บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)จัดกิจกรรมร่วมสัมภาษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับแนวทางการกลับคืนสิ่งดีๆสู่สังคมในจังหวัดเชียงใหม่ เน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็ก โดยมีแสนสิริเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนโครงการยั่งยืนภายใต้แนวคิด SOCIAL CHANGE เพื่อตอกย้ำทิศทางการทำกิจกรรมที่ดีที่มุ่งเน้นการศึกษา กีฬา และ สุขภาพ
เมื่อวันที่ 20 กย. 2555 เวลา 17.00 น. ณ ห้อง Meeting Room ชั้น 2 โรงแรม เดอะ เชดี เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสินกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า แสนสิริ เชื่อว่าการกลับคืนสิ่งดีๆสู่สังคมควรเป็นการให้ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการช่วยเหลือพัฒนาและสนับสนุนเด็ก ใน 3 ด้านได้แก่ กีฬา สุขภาพและการศึกษา จึงได้ร่วมมือกับทุกฝ่ายโดยไม่เน้นหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ที่สำคัญเราได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานที่มีเจตนารมณ์เดียวกันคือองค์การยูนิเซฟประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักในด้านสิทธิเด็ก เพื่อสร้างหลักประกันให้เด็กทุกคนได้รับสิทธิด้านต่างๆอย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับโครงการที่อยู่ภายใต้แนวคิด SOCIAL CHANGE 1.การส่งเสริมด้านสุขภาพ คือโครงการ Iodine Please นับเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ร่วมผลักดันโรคขาดสารไอโอดีนเพื่อแก้ปัญหาเด็กไทยมีไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน โดยผ่านกิจกรรมต่างๆเช่น การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ในเว็ปไซด์ สารคดี นิทรรศการ สิ่งพิมพ์ เพื่อสร้างความตระหนักและผลกระทบของการขาดการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนที่ส่งผลต่อการพัฒนาของสติปัญญาและร่างกายของเด็กไทยมานานกว่า 50 ปี
2.การส่งเสริมด้านกีฬา โดยได้จัดโครงการ Sansiri Academy ขึ้นในปี 2549 เพื่อมุ่งสนับสนุนด้านกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจัง ต้องการให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีระเบียบวินัย โดยเปิดโอกาสให้เข้ามาเรียนและฝึกทักษะกับโค้ชระดับอาชีพ ที่มี License B และ C ไปจนถึงอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีเยาวชนสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 4,000 คน จากจำนวน 5 สาขา คือ สาขาพุทธมณฑล สาขาประชาชื่น สาขารามอินทรา สาขาบางนา และสาขาอักษะ เพื่อต่อยอดความสำเร็จของเยาวชนและสร้างโอกาสให้เยาวชนในโครงการได้เข้าเรียนในโรงเรียนหรือสโมสรที่มีการสนับสนุนด้านฟุตบอลอย่างจริงจัง สามารถยกระดับตนเองขึ้นไปเล่นระดับมืออาชีพและระดับชาติต่อไปในอนาคต และ 3การส่งเสริมด้านการศึกษา จึงได้ร่วมกับองค์กรยูนิเซฟเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กวัยประถมศึกษา อายุระหว่าง 6-11 ปี จำนวนกว่า 620,000 คน ที่ไม่ได้เข้าโรงเรียน
นอกจากนั้นทางแสนสิริได้จัดทำโครงการนำร่องการเป็นองค์กรต้นแบบที่เป็นมิตรกับเด็กโดยผ่านกิจกรรมดังนี้ 1. ไม่ใช้แรงงานเด็ก เช่น การระบุในสัญญาการก่อสร้างโครงการ ไม่สนับสนุนผู้ว่าจ้าง ที่มีการใช้แรงงานเด็กในทุกกรณี 2.มีพื้นที่สำหรับเด็กในไซต์งานก่อสร้าง คือให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและขยายเป็นห้องเรียนชั่วคราว เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็กในพื้นที่ก่อสร้าง และ 3.การสนับสนุนสิทธิแม่และเด็ก โดยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเวลา 6 เดือน ให้กับพนักงานของแสนสิริในช่วงการกลับเข้าสู่การทำงานหลังคลอดบุตร และสนับสนุนให้แม่ได้มีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 4.สนับสนุนกองทุนความช่วยเหลือฉุกเฉินของยุนิเซฟ ในการช่วยเหลือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เหตุการณ์รุนแรงในเรื่องการบริการด้านสุขภาพ น้ำดื่มที่สะอาด และบริการอื่นๆ
ด้านผู้จัดการฝ่ายการตลาด (สื่อสารองค์กร) นางสาวปณิธิ จันทะยาสาครกล่าวถึงกิจกรรมที่แสนสิริได้ลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ว่า แสนสิริได้จัดทำโครงการ 3 โครงการได้แก่ การสนับสนุนการศึกษาโดยจัดคณะเดินทางศึกษาแนวทางปัญหาด้านการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน เพื่อหานโยบายในการผลักดันปัญหาโอกาสการเข้าถึงการศึกษา และสนับสนุนโครงการเล่นด้วยกัน ปันให้น้อง โดยลงพื้นที่มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียน ตชด. ห้วยจะค่าน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างโอกาสสิทธิในการเล่นของเด็ก และสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันเพื่อเด็กแบบยิ่งยืน และทุนการศึกษาของมูลนิธิเสริมกล้าที่ได้ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ในโครงการสนับสนุนอาหารกลางวันที่โรงเรียนในเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 9 โรงเรียนเป็นโครงการนำร่อง ,ให้ทุนการศึกษาสำหรับเด็กที่ได้รับผลกระทบจาก HIV จำนวน 33 คน ที่โรงเรียนในเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ และให้ทุนการศึกษาสำหรับเด็กเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ที่โรงเรียนในเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 87 ทุน
เชื่อว่าการสนับสนุนโครงการดีๆให้กับเด็กนี้จะเป็นโอกาสสานต่อให้เด็กไทยมีอนาคตที่ดีและเป็นเยาวชนที่ดีต่อไป.
สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน