วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันแชมป์โลก คนแรกของไทย

13 ส.ค. 2013
288
Spread the love

น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันแชมป์โลก คนแรกของไทย

นาทีนี้ วงการกีฬาไทยหลายคนคงจับตามอง “น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์” เจ้าของดีกรีแชมป์โลก 1 สมัย เป็นจุดเดียว หลังจากสร้างผลงานหักปากกาเซียนแบดมินตันทั่วโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศทีเดียว สำหรับ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ที่สามารถเอาชนะ ลี เสี่ยวเล่ย ในศึกแบดมินตันโลก “เวิลด์ แชมเปียนชิพส์” 2013 และคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ รายการเจาะข่าวเด่น (12 สิงหาคม 2556) จึงไม่รอช้า คว้าตัว น้องเมย์ มาสัมภาษณ์ทันที

เมื่อถามว่า 1 ปีที่ผ่านมาหลังจากลอนดอนเกมส์ 2012 น้องเมย์มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างนั้น น้องเมย์ กล่าวว่า มี การพัฒนาร่างกายที่ดีขึ้น และอาจจะเป็นเพราะผอมลงด้วย ทำให้การเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นและสามารถเลือกตีหรือค้ำลูกได้ดีขึ้น ส่วนฝีมือถือว่าพัฒนาขึ้น ตนคิดว่าการจะเป็นแชมป์โลก ทุกวันเราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ยิ่งเราซ้อมมากกว่าคู่ต่อสู้เราก็จะเหนือกว่าเขา อย่างโอลิมปิก 2012 ตอนที่แข่งกับจีนในเซตที่ 3 ก็รู้ตัวแล้วว่าไม่ไหว แพ้แน่ ๆ เพราะเราใช้พลังไปเยอะในเซต 2 แต่สำหรับการแข่งขันล่าสุด พอจบเกม 2 รู้สึกว่าตัวเองยังไหว ระบบหายใจ กำลังขารู้สึกดีขึ้น และมีพละกำลังในการโต้มากกว่าตอนโอลิมปิก

ทั้งนี้ สำหรับ ลี เสี่ยวเล่ย ก่อนหน้านี้เคยแข่งกันมาแล้วที่อเมริกาในศึกยูเอส โอเพ่น ซึ่งตนชนะแบบสูสี แต่พอเจอกันอีกครั้งตนรู้สึกว่าสู้เขาไม่ได้ เขามีพัฒนาการมากขึ้นทั้งความเร็วและคมกว่าเดิม และสำหรับครั้งล่าสุดที่เจอตนก็ไม่ได้กดดันอะไร เพราะตนเป็นรองเขาอยู่ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ส่วนเขาเป็นทั้งแชมป์โอลิมปิก และแชมป์ในระดับซูเปอร์ซีรีส์ แต่กลายเป็นว่าเขาเป็นฝ่ายที่กดดันเพราะเป็นเจ้าภาพซึ่งทุกคนในสนามฝากความ หวังไว้ อย่างในเซตแรกซึ่งตอนแรกเขานำอยู่ 19-12 แต่เขาเป็นฝ่ายเร่งเกมจนเสียเอง ทำให้ตนเอาชนะได้ในเซตแรก

          นอกจากนี้ ลี เสี่ยวเล่ย ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศด้วยว่า “วันนั้นใครแกร่งคนนั้นชนะ” คือเขาคิดว่าใครแข็งแรงกว่าคนนั้นชนะแน่นอน เพราะเขารู้ว่าถ้ามีเกม 3 ตนจะไม่ไหวแน่ และเขาก็เล่นใช้กำลังตีโต้กับตนตั้งแต่เกมแรกเลย ส่วนตนโต้กลับไป โดยบอกกับสื่อว่า “วันนั้นเป็นวันของใคร คนนั้นชนะ” ซึ่งสื่อก็ขำกันทั้งฮอลล์เลยทีเดียว และเมื่อชนะตนก็ร้องไห้เลย เพราะดีใจที่ทำได้แล้ว และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาจีนเท่านั้นที่เป็นแชมป์โลกได้

ทางด้าน กทลา ทองกร ผอ.โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด กล่าวว่า ที่น้องเมย์ชนะเนื่องจากมีการออกลูกหลากหลาย มีทั้งลูกดึง เร็ว ช้า รวมถึงหยุดลูก และเลี่ยงตีลูกดาด ซึ่งเป็นจุดแข็งของคู่แข่ง แต่โค้ชให้น้องเมย์ตีไปข้างหลังเพื่อให้คู่แข่งเสียจังหวะแทน ส่วน ฝีมือก็ดีขึ้น แต่ที่ได้มากที่สุดคือประสบการณ์จากการเข้าแข่งบ่อย ๆ เจอแมตช์หนัก ๆ แต่ก็ได้รับประสบการณ์มากขึ้น นอกจากนี้ ก่อนที่จะชิงมีลางสังหรณ์ด้วย ทางเลซองโทรมาบอกโค้ชให้ตนเช็กธงชาติและเพลงชาติว่าถูกต้องไหม ซึ่งตนฟังไปได้ครึ่งหนึ่งก็คิดว่าถูกแล้วจึงเอาหูฟังออก แต่เขาบอกว่าให้ฟังให้จบ ซึ่งตนก็คิดว่านี่จะต้องเป็นลางบอกเหตุว่าจะได้เป็นแชมป์แน่นอน ส่วนทางด้าน นางคำผัน สุวรรณศาลา แม่ของน้องเมย์ เล่าว่า ลูกสุดท้ายไม่กล้าดูเลยและไม่ได้ดูด้วย เพราะเครียด

สุดท้ายนี้ น้องเมย์เปิดเผยว่า สำหรับถ้วยรางวัลนี้จะถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และขอมอบให้แม่ทุกคน ซึ่งตนก็ได้บอกรักแม่ พร้อมกับอวยพรขอให้แม่มีความสุขและร่างกายแข็งแรงด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับ การเป็นแชมป์โลกไม่ได้ถือว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของตน ตนก็ยังจะพัฒนาตัวเองและฝึกซ้อมต่อไป เพราะยังมีการแข่งขันโอลิมปิกที่รออยู่
 

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=jU2hTgL6zuY[/youtube]

 

 

ขอบคุณที่มา kapook.com

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ