นายก “ปู”ร่วมงานเลี้ยงรับรองของโครงการ (EWEC)

Spread the love

นายก “ปู”ร่วมงานเลี้ยงรับรองของโครงการ Every Woman Every Child (EWEC) พร้อมกล่าวสุนทรพจน์

 

เว็บไซต์ รัฐบาลไทย เปิดเผยว่า  วานนี้ เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงรับรองของโครงการ Every Woman Every Child (EWEC) ณ Museum of Modern Art (MOMA), 11 W 53rd Street, NY  พร้อมกล่าวสุนทรพจน์ใหัวข้อ “The Transformation of women and children′s lives through health and socio-economic empowerment”

โครงการ Every Women Every Child (EWEC): Global Strategy for Women′s and Children′s Health เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยเลขาธิการสหประชาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของสตรีและเด็กลงให้ได้จำนวน 16 ล้านคน ภายในปี 2558 โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการมีสุขภาพที่ดีของสตรีและเด็ก ปัจจุบันมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 69 ประเทศ และประกาศที่จะกำหนดเป้าหมายการพัฒนาและปรับปรุงระบบสาธารณสุขเพื่อส่งเสริมสุขภาพของมารดาและเด็ก

โดยในงานนี้มีผู้นำที่ได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์ในงานอีก อาทิ Mr. Goodluck Jonathan ประธานาธิบดีไนจีเรีย ดร. Susilo Bambang Yudhoyono ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Ms. Ellen Johnson Sirleaf ประธานาธิบดีไลบีเรีย นาย Divid Cameron นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นายYoshihikoNodaนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ในโอกาสนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับเชิญจากเลขาธิการสหประชาชาติและได้รับเกียรติเป็นผู้กล่าวสุนพจน์เป็นอันดับแรก ภายใต้หัวข้อ The Transformation of women and children′s lives through health and socio-economic empowerment”   การพัฒนาชีวิตสตรีและเด็กโดยการส่งเสริมการพัฒนาด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการริเริ่มโครงการ Every Woman, Every Child โดยเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญร่วมกันในการดำเนินการเพื่อรักษาชีวิตเด็ก และสตรีจำนวน 16 ล้านคนภายในปี 2558 พร้อมทั้งเชื่อว่า การเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง โดยไม่จำกัดเพศและเชื้อชาติ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของสิทธิมนุษยชนและความมั่นคง ซึ่งการสนับสนุนนโยบายดังกล่าวนี้ จะนำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายการส่งเสริมสตรีได้กว้างขึ้น และมั่นใจว่าเด็กได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่  การมีประชากรที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะช่วยส่งเสริมความพยายามในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ หรือ Millennium Development Goal รวมทั้งการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางได้อย่างยั่งยืน

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น การพัฒนาคุณภาพและการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง จึงเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องดำเนินการในปีแรกของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพันธสัญญานี้นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน นับตั้งแต่ปี 2545 และครอบคลุมเกือบร้อยละ 99 ชองประชากรโดยในปีนี้ รัฐบาลได้ขยายโครงการเพื่อให้ครอบคลุม ระบบรักษาพยาบาลฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งจะช่วยรักษาชีวิตในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึง สิทธิประโยชน์ต่างๆของการรักษาพยาบาลของแต่ละบุคคล เพื่อให้ประชากรทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชาย หรือเด็ก ได้รับการคลุ้มครองดูแลตลอดเวลา นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมยิ่งขึ้น รัฐบาลได้จัดการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนทุกคน โดยไม่ถือเชื้อชาติหรือเพศ และขณะนี้ เป็นที่น่ายินดีที่เด็กและสตรีทุกคน สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งการดูแลสุขภาพการตั้งครรภ์ เวชภัณฑ์ที่จำเป็น การส่งเสริมสุขภาพ และบริการวางแผนครอบครัว  ในทำนองเดียวกัน สตรีได้รับเชื้อ HIV ยังได้รับความดูแลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากมารดาไปสู่เด็ก ด้วยการเข้าถึงยาที่จำเป็นต่อการรักษา ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการส่งเสริมบทบาทสตรี โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงที่มาและแรงบันดาลใจของนโยบายดังกล่าวว่า ได้รับอิทธิพลจากการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเติบโตจากครอบครัวค้าขาย ที่ดำเนินธุรกิจด้านโรงภาพยนตร์เล็กๆในภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งมารดาช่วยบิดาขายบัตรชมภาพยนตร์และเก็บค่าจอดรถยนต์ ดังนั้น นับตั้งแต่เด็ก จึงได้รับการสนับสนุนให้เลือกอาชีพด้วยตนเอง และการเป็นผู้หญิงไม่ถือเป็นอุปสรรค ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าตนเองโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสเหล่านี้ซึ่งพัฒนาไปสู่ความสำเร็จในอาชีพการงาน ทั้งในธุรกิจและการเมือง แต่ที่สำคัญที่สุด สิ่งเหล่านี้ได้ให้โอกาสในการสร้างครอบครัวที่มีความสุขและสร้างความแตกต่างในสังคม
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีตระหนักอยู่เสมอว่า ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะโชคดี  จากประสบการณ์ของตนเองทำให้รู้ว่าผู้หญิงทุกคนต้องได้รับโอกาสเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีได้รับ และเป็นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั่วประเทศ เพื่อให้สตรีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเปิดโอกาสการสร้างธุรกิจของตนเอง  นอกเหนือจากการสร้างงานแล้ว โครงการนี้ยังจะให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาแก่สตรีที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกดขี่และความรุนแรงภายในครอบครัว

สำหรับเด็ก คงไม่มีอะไรที่น่ายินดีไปกว่าการเห็นพวกเขามีสุขภาพแข็งแรงและสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ในการนี้ รัฐบาลจึงได้ดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพและการศึกษาที่เหมาะสม ครบวงจรของการพัฒนา ซึ่งการดูแลครบวงจรของชีวิตจึงเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายการพัฒนาเด็ก  โดยนโยบายดังกล่าวจะประกันว่า เพื่อสุขภาพที่ดี เด็กทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนที่จำเป็น และได้รับการดูแลในแต่ละช่วงอายุนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา

ด้านการศึกษา มีการออกแบบหลักสูตรพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการเรียนรู้ในพัฒนาการของแต่ละวัย ดังนั้น รัฐบาลจึงส่งเสริมการให้นมบุตรจากอกมารดา และได้ห้ามการส่งเสริมการตลาดการทดแทนนมมารดาในโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อให้สอดรับกับกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมยุทธศาสตร์เกลือไอโอดีน เพื่อการพัฒนาทางสมองและร่างการอย่างสมบูรณ์ ของประชาชนไทย

 

สำนักข่าว

Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ