นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ให้การต้อนรับคณะกรรมาธิการ การปกครอง วุฒิสภา ในการรับฟังการบรรยายสรุปการกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 16 ม.ค 2556 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 เทศบาลนครเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้การต้อนรับคณะกรรมการธิการ การปกครอง วุฒิสภานำโดย นายมงคล ศรีคําแหงประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง พร้อมคณะที่เข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการกำจัดขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและขยายตัวรวมถึงมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคม และเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการจัดการขยะในชุมชน ทั้งขยะมูลฝอย ขยะอันตรายในครัวเรือน มีผลต่อสภาวะแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทางจังหวัดเชียงใหม่ร่วมมือกับเทศบาลนครเชียงใหม่จึงได้รณรงค์ให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ร่วมบริหารจัดการแยกขยะไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิลหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ การคัดแยกขยะประเภทต่างๆเพื่อนำมากำจัดอย่างถูกวิธี
ด้านนายทัศนัย บูรณุปกรณ์นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เผยว่าเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีวิธีการจัดการกำจัดขยะมูลฝอยภายในเขตเทศบาล ฯ โดยการจัดการว่าจ้างเหมาเอกชนในการจัดเก็บขยะมูลฝอยทั่วทั้งเขตเทศบาลฯและส่งไปยังสถานีขนถ่ายขยะที่ถนนหายยาแล้วดำเนินขนส่งไปกำจัดโดยวิธีฝังกลบแบบถูกหลักสุขาภิบาล ที่อำเภอฮอด
สำหรับจำนวนขยะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีปริมาณขยะสูงถึงวันละ 300 ตัน ในขณะที่กำลังการจัดเก็บ ด้วยการขนถ่ายขยะไปฝังกลบ ดำเนินการได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ขีดความสามารถของท้องถิ่นแต่ละแห่ง สามารถจัดเก็บและทำลายขยะที่มีอยู่ เพียง 60-70% ของปริมาณขยะทั้งหมดเท่านั้น ปริมาณขยะที่เหลือจะถูกทิ้งสะสมตามชุมชน การใช้ทรัพยากรและพลังงานโดยไม่รู้คุณค่า ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม กระทบถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม นับวันจะทวีความผันผวนรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีความตื่นตัวทั้งระดับองค์การระหว่างประเทศ จนนำไปสู่แนวคิดการจัดการมูลฝอย โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่โดยการสนับสนุนและประสานงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือ สสส. ร่วมกันดำเนินโครงการ “ปฏิบัติการเชียงใหม่เอี่ยม” เป้าหมายของเราคือลดจำนวนขยะลงให้ได้ 30% ซึ่งจะประหยัดงบในการกำจัดขยะได้อย่างน้อย 60 ล้านบาท ส่วนปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสีย เราตั้งเป้าจะคืนน้ำใสให้แม่ข่า และแม่ปิง ด้วยการติดตั้งบ่อดักไขมันก่อนปล่อยน้ำทิ้งจำนวน 10,000 ครัวเรือน และสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืชเป็นตัวบำบัดซึ่งจะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าบำบัดน้ำเสียถึง 1,000 ล้านบาท
ส่วนการจัดการแก้ไขปัญหาขยะในระยะยาวได้มีการแบ่งพื้นที่การบริหารจัดการขยะด้วยการตั้งโรงงานกำจัดขยะเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนเหนือ อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลเวียงฝาง อำเภอฝาง โซนกลาง อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และ ส่วนโซนใต้ อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากการจัดการระบบการกำจัดขยะให้มีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งที่จะมีการดำเนินการควบคู่กันไปคือการรณรงค์ลดปริมาณขยะของเมืองเชียงใหม่ ด้วยการคิดหาวิธีการในการเพิ่มมูลค่าหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งอาจจะทำโดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งเปิดจุดรับซื้อขยะบางชนิดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์หรือเพิ่มมูลค่าได้ หรือดูความเป็นไปได้ที่จะนำขยะไปแปรรูปเพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง
ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง กล่าวว่า จากการรับฟังระบบการจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว นับเป็นวิธีที่มีกระบวนการการจัดได้ถูกต้องตามหลัก รวมทั้งการให้ประชาชน องค์กร หน่วยงาน สถาบันการศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไข และจะนำผลการรายงานการจัดการขยะจัดทำเป็นร่างรายงานส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี และขอฝากให้เทศบาลนครเชียงใหม่ รวมถึงประชาชน ร่วมรักษาศิลปวัฒนธรรมล้านนานให้เกิดมิติ ให้ยังคงความเป็นล้านนาเพื่อรักษาเอกลักษณ์ประจำถิ่นให้ดำรงคงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป.
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน