วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

นายกรัฐมนตรี วีดีโอคอนเฟอเรนส์ มอบนโยบายสำคัญ

Spread the love

นายกรัฐมนตรี วีดีโอคอนเฟอเรนส์ มอบนโยบายสำคัญสำหรับการบริหารราชการแผ่นดินกับ       ผู้ว่าราชาการจังหวัดทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลจากทำเนียบรัฐบาล มอบนโยบายสำคัญสำหรับ การบริหารราชการแผ่นดินปี 2556 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศ เน้นย้ำการทำงานเชิงรุก ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้(11 ต.ค.55)  นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลจากห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มอบนโยบายสำคัญสำหรับ การบริหารราชการแผ่นดินปีงบประมาณ 2556 ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศ โดยนายธานินทร์ สุภาแสน  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า อยากเห็นการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง หยิบเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวตั้ง แก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหาการชุมนุมเรียกร้องของประชาชน หากจะมีการชุมนุมขอให้มีแค่ระดับจังหวัดเท่านั้น  ผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องเป็นคู่แฝดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นในพื้นที่  รวมทั้งให้มีการสื่อสารทิศทางนโยบายรัฐบาลลงสู่ประชาชน หากเกิดปัญหาหน้างานจากการปฏิบัติการตามนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สะท้อนปัญหากลับไปยังรัฐบาลด้วยเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันอย่างบูรณาการ ซึ่งการปฏิบัติงานตามนโยบาย  รัฐบาลจะไม่เน้นในการสั่งการแต่จะให้อยู่ในดุลยพินิจและการตัดสินใจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะปรับทิศทางการทำงานตามนโยบายให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ และอยากเห็นผู้ว่าราชการจังหวัด บริหารงานแบบ CEO ที่บริหารจัดการงานในพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จและมีประสิทธิภาพ ในปี 2556 เรื่องที่จังหวัดจะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมคือการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวกลาง ทำหน้าที่รวบรวม ติดตามข้อมูลการร้องเรียนของพี่น้องประชาชน ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ความมั่นคง ปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ นำส่งข้อมูลให้ส่วนกลาง เพื่อจะได้ทำงานแก้ไขปัญหาของประชาขนในเชิงรุกและบูรณาการได้ดียิ่งขึ้น ในการบริหารราชการแผ่นดินในปี 2556  รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ  การจัดทำแผนยุทธศาสตร์จังหวัด/กลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติการปี 2556  การทำแผนงบประมาณให้เร็วขึ้น และทุกจังหวัดต้องบรรจุเรื่องอาเซียนไว้ในแผนของจังหวัด ในด้านการเตรียมตัวของจังหวัด ผลกระทบจากประชาคมอาเซียน และให้ทำแผนระยะยาวไปถึงปี 2557 ในเรื่องอาเซียนด้วย แผนอาเซียน รัฐบาลจะมี 2 ส่วน คือ จังหวัดในพื้นที่ชายแดนและจังหวัดท่องเที่ยว ส่วนด้านการทำยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ต่อไปนี้จะเน้นเป็นรายอุตสาหกรรม และทบทวนยุทธศาสตร์เกษตรที่ผ่านมา ต้องทำแผนเกษตรโซนนิ่ง มองไปที่ต้นน้ำ วัตถุดิบ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรม การเป็นครัวไทยสู่ครัวโลก กลุ่มจังหวัดต้องมีการจัดระเบียบการทำงานใหม่ ไม่ให้แข่งขันกันแต่ต้องเอื้อกัน  การพัฒนาศูนย์ OTOP รัฐบาลจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายโดยมีการจัดแบ่งกลุ่ม OTOP ตามศักยภาพ เพื่อส่งเสริมและพัฒนา เพื่อทำ BRANDING นอกจากนี้รัฐบาลจะวางยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาที่ดินของประเทศทั้งระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำกินของประชาชนทั่วประเทศ ส่วนนโยบายรับจำนำข้าวเปลือก รัฐบาลเดินหน้าต่อ จะมีการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศและการจำหน่ายข้าวรัฐต่อรัฐ  ในการดูแลนโยบายการรับจำนำข้าว รัฐบาลขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดูรายละเอียดลงลึกหน้างานในเรื่องการทุจริต ที่ต้องทำอย่างเคร่งครัดจริงจัง ไม่ให้มีช่องว่างที่จะมีการทุจริต ให้มีการสุ่มตรวจ เป็นระยะ ๆ และถ้าพบการกระทำผิดหรือพบปัญหาการทุจริต จะลงโทษทางวินัยและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกรายอย่างเข้มงวด

ภายหลังการประชุมรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า จังหวัดเชียงใหม่จะดำเนินการตามนโยบายที่ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงจังหวัดเชียงใหม่ ใน 5 เรื่องหลัก โดยจังหวัดจะเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือวางกรอบการดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายนายกรัฐมนตรีต่อไป ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมระดับจังหวัด  การแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทย การจัดทำยุทธศาสตร์รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้านเศรษฐกิจหรือ AEC การพัฒนาศูนย์ OTOP และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ซึ่งในเบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่กำหนดดีเดย์หรือ KICK OFF ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะมีมิสเตอร์หมอกควันทั่วทั้ง 25 อำเภอ และใช้มาตรการ การบังคับใช้กฎหมายควบคู่กันไปด้วย

 

สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน