นักสะสมผ้าเมืองเหนือเปิดกรุผ้าโบราณ ร่วมจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระราชินี
เส้นไหมที่ถักทอจนเกิดลวดลายต่างๆ เป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่กับชาติพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มาอย่างช้านาน เส้นด้ายพุ่งด้ายยืนที่ร้อยเรียงได้บอกเล่าเรื่องราวเทียบเท่าหนังสือประวัติศาตร์ หากแต่ผู้รู้และเรียนรู้เรื่องราวเหล่านั้นในปัจจุบันกลับมีเพียงไม่กี่กลุ่ม เพราะต้องอาศัยหัวใจแห่งรัก ความแม่นยำ และประสบการณ์จึงจะสามารถตีความสัญลักษณ์ลวดลายบนผืนผ้าเหล่านั้นได้
หากเอ่ยชื่อ อัครเดช นาคบัลลังก์ หรือ คุณป้อม สบันงา ผู้สะสมผ้าทอโบราณพร้อมกับศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของผ้าจากแหล่งต่างๆ ใครต่อใครต่างยอมรับว่าคือ “ตัวจริง”ของวงการผ้าโบราณคนหนึ่ง ที่มีกรุผ้าโบราณอันประเมินค่าไม่ได้นับหมื่นชิ้น ไม่รวมเครื่องประดับและของโบราณอื่นๆ ที่เก็บสะสมไว้ นอกจากดูแลเสื้อผ้าของละครย้อนยุคชื่อดังหลายเรื่อง ทั้งเจ้านาง เพลิงพระนางทั้ง 2 เวอร์ชั่นแล้ว ยังเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ “สบันงา” ที่จัดแสดงผ้าโบราณเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้ชมอีกด้วย
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 นี้ คุณอัครเดช ได้เชิญชวนเพื่อนพ้องกลุ่มคนรักและสะสมผ้าโบราณมาจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในงาน “มหกรรมผ้าไทยประชารัฐเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราชินี” ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ที่เหล่านักสะสมผ้าไทยจะมารวมตัวกัน จัดแสดงผ้าโบราณจำนวนถึง84 ผืน รวมมูลค่ากว่าห้าสิบล้านบาท โดยคุณป้อม ในฐานะที่เป็นแม่งาน ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดการจัดงานว่า “การจัดงานในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสบันงาเอง เคยจัดแสดงนิทรรศการผ้าไทยโบราณหน้าพระที่นั่งมาหลายครั้ง ประกอบกับปีนี้ เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์คือ ทรงสนับสนุนให้มีการอนุรักษ์ลายทอผ้าอันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งมีค่ายิ่ง ที่นับวันจะสูญหาย โดยส่งเสริมให้กลุ่มแม่บ้านร่วมกันทอผ้าทั่วทุกภาคเพื่อสืบสานองค์ความรู้ด้านการทอผ้าลวดลายต่างๆ ให้คงอยู่เป็นมรดกคู่ประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน ตลอดจนทรงก่อตั้งศูนย์ศิลปาชีพ ให้ชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารได้มีงานทอผ้าทำเสริมรายได้ให้ครอบครัว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย จึงได้รวบรวมกลุ่มคนรักผ้าไทยในจังหวัดเชียงใหม่ จัด “มหกรรมผ้าไทยประชารัฐเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราชินี” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และเป็นการอนุรักษ์ผ้าไทยโบราณ ให้ประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจได้ชมฟรี ภายในงานจะมี การจัดแสดงนิทรรศการผ้าไทยโบราณราชสำนักและกลุ่มชนต่างๆในล้านนา จำนวน 84 ผืน จากนักสะสมผ้าชื่อดัง ซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ซึ่งพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณสบันงา จะนำ “ผ้าซิ่นไหมคำ” อายุนับ 100 ปี จากราชสำนักเชียงตุงอันล้ำค่า จำนวนถึง 5 ผืน มาจัดแสดงพร้อมกันเป็นครั้งแรก รวมถึง”เสื้อเดินได้” หรือเสื้อคลุมทองคำของเจ้าฟ้าเชียงตุงมาร่วมจัดแสดง”
ด้านคุณ อัญชลี ศรีป่าซาง หรือคุณน้อย เจ้าของร้านสีสันพรรณไม้ ผู้หลงใหลผ้าโบราณอีกท่านที่จะมาจัดแสดงผ้าภายในงานกล่าวว่า “ความรักของพี่ที่มีต่อผ้าซิ่นเริ่มต้นจากการซื้อมาใส่ในชีวิตประจำวันก่อน จากนั้นจึงเริ่มศึกษาและพบว่า ผ้าเก่าหรือผ้าโบราณมีเสน่ห์จับใจ เพราะส่วนใหญ่คนทอไม่ได้ทอเพื่อขาย จึงมีความละเมียดละไมกว่าปัจจุบัน ผ้าโบราณบอกเล่าวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ผ่านลวดลายที่ถักทอขึ้น ซึ่งหาไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบันเช่นกัน สำหรับผ้าที่จะนำมาร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ จะนำผ้าซิ่นเด็กในราชสำนักจนถึงชาวบ้านธรรมดามาจัดแสดง เพราะส่วนใหญ่คนมักไม่รู้ว่า สมัยก่อน ชาวไทยยวน ไทเขิน ไทลื้อ หรือคนไทยในแถบล้านนา ล้านช้าง เชียงตุง นุ่งซิ่นกันตั้งแต่ 4-5 ขวบ ซิ่นเด็กจะมีความพิเศษคือการทอจะย่อขนาดลงจากของผู้ใหญ่ แต่ยังคงรายละเอียดเหมือนผู้ใหญ่ทุกประการ นับเป็นการทอที่ยากและใช้ความละเอียดสูงมากเลยทีเดียว”
คุณแก้วสิริ เอเวอริ่งแฮม เจ้าของผ้าหลวงพระบางเปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการหลงใหลผ้าโบราณว่า “เริ่มเก็บครั้งแรกเมื่อประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว ช่วงนั้นมีคนมาเสนอขายผ้าจากหลวงพระบางค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นช่วงอพยพ ด้วยความเสียดายจึงซื้อเก็บไว้ เพราะส่วนใหญ่เป็นผ้าทอยกดิ้นเงินดิ้นทอง ผ้าปักดิ้นเงินดิ้นทองที่มาจากในราชสำนักหลวงพระบาง เริ่มจากผ้าสไบ ค่อยเก็บสะสมมาเรื่อยๆ จากนั้นก็เริ่มได้ผ้าไทแดง ไทดำ ไทขาว จากซำเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผ้าจกทอด้วยเทคนิคเกาะล้วง ความพิเศษของผ้าเหล่านี้คือเป็นผ้าที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเกิด การแต่งงาน หรือแม้กระทั่งผ้าหมอเหยา ผู้ทำพิธีกรรม ซึ่งในแต่ละครอบครัว อาจมีเพียงผืนเดียวเท่านั้น ต่อมากจึงเริ่มเก็บผ้าไทพวนจากเชียงขวาง ผ้าไทลื้อจากไชยบุรี พงสาลี เราเก็บผ้าโบราณอายุ 100-200 ปี ตั้งแต่แหล่งดั้งเดิมจนถึงถิ่นที่อพยพมาตั้งรกราก ผ้าเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวชาติพันธุ์ในภูมิภาคแถบนี้ได้หมด ซึ่งจะเห็นความผูกพันของครอบครัวและวีถีชีวิตที่บอกเล่าผ่านทุกลายเส้นที่ทอ ซึ่งแรกๆเก็บไปเรื่อยๆด้วยความไม่รู้ แต่ต่อมาเราตามรอยผ้าไปยังท้องถิ่นจึงเริ่มศึกษา จนทุกวันนี้เห็นลายก็บอกได้เลยว่ามาจากแหล่งไหน สำหรับผ้าที่จะนำมาแสดงในงาน ตั้งใจว่าจะนำความงดงามของผ้าในราชสำนักหลวงพระบางมาให้ชมกัน ซึ่งมีทั้งเทคนิคการทอและการปักที่เชื่อว่าทุกคนต้องตื่นละลึงอย่างแน่นอน”
คุณทัศนี พรพุฒินาค เจ้าของร้านดาดา ลุนตยาผ้าโบราณ เปิดเผยว่า “การเก็บสะสมผ้าโบราณจริงๆแล้วซึมซับมาเรื่อยๆ เนื่องจากครอบครัวทำธุรกิจซื้อขายของแอนทีคจากฝั่งพม่า ซึ่งหลายๆครั้ง มีผ้าโบราณจากในราชสำนักพม่า อายุมากกว่า 100 ปีติดมาบ้าง เมื่อก่อนก็ซื้อมาขายไปค่ะ แต่หลายครั้งที่เจอผ้าที่ชอบก็เก็บไว้เอง ไม่ได้คิดว่าจะเก็บเพื่อเพิ่มมูลค่าเลย คือเน้นที่ความชอบล้วนๆ ดูสีและลวดลายต่างๆ วัสดุเส้นใยที่ใช้ หรือแม้แต่เทคนิคการทอลุนตยาซึ่งเป็นแบบเกาะล้วงขั้นสูง สมัยนี้ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว พอเก็บไปเก็บมา กลายเป็นเริ่มเยอะขึ้น คือผ้าโบราณที่เคยผ่านมือไปเป็นพันๆ ผืน เราเห็นแวบแรกรู้เลยว่าผ้ามาจากแหล่งไหน ผ้าโบราณในราชสำนักพม่าจะใช้เส้นไหมบางๆทอขึ้นมา ผ้ายะไข่จะทอผสมดิ้นเงิน ส่วนรัฐฉานจะเป็นการปักดิ้น และผ้าแต่ละยุคสมัย ก็จะมีเทคนิคหรือลวดลายที่ต่างกันออกไป เช่น ถ้าเป็นยุคของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ก็จะนำลุนตยามาต่อตีนจกเชียงใหม่ เป็นต้น ผ้าที่จะนำมาจัดแสดงในงาน ตั้งใจจะนำลุนตยารุ่นผ่าหน้าจากราชสำนักพม่าไปจัดแสดงค่ะ ซึ่งจะเป็นการทอผสมดิ้น และมีผ้าปะโซความยาวถึง 4 เมตรรวมทั้งซิ่นยะไข่ผืนงามที่เป็นผืนรักด้วยค่ะ
ด้านคุณทิพาพร อัชนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสังคมศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่เปิดเผยว่า “พรอมเมนาดา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด และในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้ พระบรมราชินีนาถ ในปีนี้ พรอมเมนาดามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดงานมหกรรมผ้าไทยประชารัฐเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราชินี ซึ่งเป็นนิทรรศการที่เรียกได้ว่า เป็นครั้งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการรวบรวมผ้าโบราณล้ำค่าจากนักสะสมมาจัดแสดงมากที่สุด ทั้งนี้ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว นอกจากในส่วนของการจัดนิทรรศการผ้าโบราณแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การเสวนาเรื่องผ้าไทยจากผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ, อาจารย์วิถี พานิชพันธ์ ,อาจารย์ทรงศักดิ์ ปรางวัฒนากุล และคุณเทิดศักดิ์ อินแสง พร้อมชมการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าล้านนาไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงการประกวด คู่แม่-ลูกแต่งงามอย่างไทย,แฟชั่นผ้าล้านนาในจินตนาการ และการประกวดธิดาน้อยผ้าล้านนา รวมถึงกิจกรรมการสาธิตวิธีการทอผ้าและย้อมผ้าแบบโบราณ อีกทั้งยังมีการจัดพื้นที่เพื่อจำหน่ายผ้าทอทั้งใหม่และเก่าจากร้านค้าชื่อดังของภาคเหนือในราคาพิเศษอีกด้วย ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ ร่วมชมนิทรรศการและร่วมกิจกรมภายในงาน“มหกรรมผ้าไทยประชารัฐเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราชินี” ตั้งแต่ 12-14 สิงหาคม 2559 ณ ลานกิจกรรม(อาคาร-บี ) ศูนย์การค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ เชียงใหม่ เวลา 11.00-20.30 น.”
CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ