นร.เก่าแถลงเสียใจออสเตรเลียประณามไทย

นร.เก่าแถลงเสียใจออสเตรเลียประณามไทย

นักเรียนเก่าออสเตรเลียแถลงเสียใจออสเตรเลียประณามไทย ชี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารไม่โปร่งใส จำเป็นต้องมีการยึดอำนาจจัดการความขัดแย้งในประเทศ

ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 4 มิ.ย.2557  ตัวแทนสมาคมนักเรียนเก่าออสเตรเลีย รวมตัวกันประกาศแถลงการณ์เกี่ยวกับท่าทีรัฐบาลออสเตรเลียต่อการรัฐประหารในประเทศไทย ซึ่ง นางมาตรินี รักษ์ตานนท์ชัย เลขาธิการสมาคมศูนย์วิชาการไทย – ออสเตรเลีย กล่าวว่า พวกเรารู้สึกไม่สบายใจที่รัฐบาลออสเตรเลีย ได้มีถ้อยแถลงเชิงประณามประเทศไทย โดยพวกเราได้รับการศึกษาจากประเทศออสเตรเลีย มีอุดมการณ์ความเชื่อเช่นเดียวกับชาวออสเตรเลียในเรื่องประชาธิปไตย แต่สถานการณ์รัฐประหารในไทยครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังมีคนชุมนุมนานกว่า 6 เดือน เพราะประท้วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เชื่อว่ามีความไม่โปร่งใสในการบริหารประเทศและเห็นว่าเป้าหมายการรัฐประหารครั้งนี้ คือการยุติความรุนแรง หรือเกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ และเมื่อทหารเข้ามาทำการรัฐประหารหลังจากผ่านการพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายหลังไม่ได้ข้อยุติ

นางมาตรินี กล่าวว่า เราไม่ได้เห็นพ้องเรื่องการรัฐประหาร แต่เมื่อทหารเข้ามาแล้ว ได้แก้ปัญหาเรื่องข้าวได้ต่างจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเดินหน้าในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การกระทำดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้เวลาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปฏิรูปตามแผนที่ได้ประกาศไว้ หาก คสช.ไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งได้ตามกำหนด เราพร้อมจะเห็นด้วยกับทางออสเตรเลีย คัดค้านต่อ คสช.โดยทันที

ด้านนางสิริลักษณา คอมันตร์ กล่าวว่า ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ เวลา 11.00 น. ตนพร้อมด้วยตัวแทนสมาคมนักเรียนเก่าออสเตรเลีย จะเดินทางไปพบกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เพื่อยืนยันแถลงการณ์จุดยืนดังกล่าว เพื่อส่งให้ทางรัฐบาลออสเตรเลียรับทราบ

“มีชัย วีระไวทยะ”ชี้ทำรัฐประหารเเก้ปัญหาในสังคมไทย

นายมีชัย วีระไวทยะ ในฐานะศิษฐ์เก่านักเรียนทุนรัฐบาลออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า อยากให้คนไทยที่เคยเรียนที่ออสเตรเลียช่วยกันเผยแพร่เหตุการณ์รัฐประหารครั้งนี้ว่า เป็นการแก้ปัญหาของไทย ซึ่งการรัฐประหารของไทยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ หรือเรื่องผิดปกติ อยากให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เชื่อว่าหากช่วยกันอธิบายจะทำให้เกิดความเข้าใจ

“ใครที่จะรู้จักคนออสเตรเลียหรือมีเพื่อนเป็นคนต่างชาติให้ส่งข้อความถึงอธิบายให้เขารู้ว่า ขณะนี้กำลังทำให้ประเทศไทยเกิดความโปร่งใส เหมือนกับคนป่วยที่ต้องการการรักษา เมื่อหายดีแล้วก็พร้อมกลับมาอีกครั้ง” นายมีชัย กล่าว

ศน.เชิญ5ศาสนาสร้างความปรองดองคนในชาติ

นายกฤษศญพงษ์  ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.)   เปิดเผยว่า  ตามที่ พล.ร.อ.ณรงค์  พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายสังคมจิตวิทยา เดินทางมารับฟังนโยบายการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ) พร้อมมอบนโยบายเร่งสร้างความปรองอดองให้กับคนในชาตินั้น  ซึ่ง พล.ร.อ.ณรงค์ มีความสนใจโครงการหมู่บ้านศีล 5 เป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงการนี้จะทำให้คนในสังคมไทยใช้ศีล 5 เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะศีล 5 จะช่วยทำให้สังคมเกิดความสงบและมีสันติสุข และส่งผลให้คนในชุมชนหรือคนรอบข้างเกิดความรักความสามัคคีร่วมกัน ดังนั้น  คสช.จึงอยากให้ ศน. ช่วยผลักดันโครงการดังกล่าวมาส่งเสริมสร้างสันติความปรองดองให้กับคนในชาติ  โดยเบื้องต้น ศน.จะขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นต้น มาช่วยเสริมในการทำโครงการหมู่บ้านศีล 5

“เชื่อว่าศีล 5 จะเป็นพื้นฐานสร้างความปรองดองทำให้เกิดความสามัคคี การให้อภัยซึ่งกันและกัน และยังเป็นพื้นฐานของการสร้างคนดี  โดย ศน.จะเริ่มขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองอย่างจริงจังทันที โดยจะนัดหารือกับผู้นำ 5 ศาสนา หรือศาสนิกสัมพันธ์ ประกอบด้วย ศาสนาซิกข์  พราหมณ์-ฮินดู พุทธ คริสต์ และอิสลาม ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เพื่อต้องการใช้หลักศาสนาในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับคนในชาติ เพราะทุกศาสนามีหลักธรรมพื้นฐานในการสร้างความสามัคคีอยู่แล้ว และยังเข้าถึงชุมชนได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน” นายกฤษศญพงษ์ กล่าว

กลุ่มต้านนัดรวมตัวขอบคุณรัฐบาลออสเตรเลีย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย มีกลุ่มประชาชนต่อต้านรัฐประหารได้นัดรวมตัว จะยื่นจดหมายถึงรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อขอบคุณรัฐบาลออสเตรเลีย กรณีแสดงท่าทีตอบโต้เกี่ยวกับการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.นั้น ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาถึงแล้ว แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม ซึ่งบางส่วนหลังมอบดอกไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ก็เดินทางกลับ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า-ออก และบริเวณโดยรอบ เพื่อรักษาความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย และแน่ใจว่าไม่มีกลุ่มมวลชนเดินทางมา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่บริเวณถนนสาทรใต้ มีตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกและพยายามขอความร่วมมือสื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ให้ลงไปอยู่บนผิวการจราจร

ขอบคุณที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20140604/185922.html

สำนักข่าว