ทำลายไร่ฝิ่น!! จำนวน 2 ไร่ในป่าบ้านแม่สะต๊อบ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.55 นายบุญเกื้อ คุณาธารกุล ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ นายสรธร สันทัด นายอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายธนู ครั่งเนียม ปลัดอำเภอแม่แจ่ม ทำหน้าที่ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอแม่แจ่ม เข้าทำลายไร่ฝิ่นจำนวน 2 ไร่ เบื้องต้นไม่พบผู้กระทำผิด เหตุเกิดในป่าบ้านแม่สะต๊อบ หมู่ 3 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
การตรวจยึดในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวกองทัพบก(พื้นที่เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน) จึงเดินทางไปตรวจสอบและสืบสวนผู้กระทำผิดที่บริเวณป่าบ้านแม่สะต๊อบ โดยใช้พาหนะในการเดินทางด้วยรถยนต์ชนิดขับเคลื่อนสี่ล้อ ลัดเลาะไปตามเส้นทางภูเขาต่อจากนั้นได้เดินเท้าต่อ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขาสูงชัน รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ เมื่อไปถึงบริเวณจุดหมายพบว่ามีการลักลอบปลูกฝิ่นจำนวน 5 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ 300 ตารางวา โดยแปลงที่ 1 มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นฝิ่นมีสภาพไม่สมบูรณ์และได้กรีดไปแล้วบางส่วน แปลงที่ 2 มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นเล็กสูงประมาณ 2 นิ้วสภาพสมบูรณ์ แปลงที่ 3 มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นกำลังงอกกล้า 2 ใบสมบูรณ์ แปลงที่ 4 มีเนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นเล็กสูงประมาณ 2 นิ้ว แปลงที่ 5 มีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา ต้นกล้าฝิ่นเล็กสูงประมาณ 2 นิ้วสภาพสมบูรณ์ โดยไม่พบผู้ใดอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุหรือพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างไกลเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดต้นฝิ่นไว้เป็นของกลางบางส่วนและได้ร่วมกันถอนตัดฟัน ต้นฝิ่นที่เหลือแล้วนำมากองรวมกันเผาทำลาย พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ได้ทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำต้นฝิ่นของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
นายบุญเกื้อ คุณาธารกุล ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้อากาศหนาวเย็นไว โดยฝิ่นจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายฝนแล้ว 3 เดือน ทำให้ฝิ่นมีการลักลอบปลูกกันมาก โดยปีนี้มีการลักลอบปลูกแปลงใหญ่จำนวนหลายแห่ง เพราะสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับ ราคาฝิ่นดิบมีการถีบตัวสูงขึ้นเนื่องจากมีการกวดขันจับกุมจากเจ้าหน้าที่รัฐกันมาก ทำให้ราคาฝิ่นดิบ 1 จ้อย คือ 1.6 กิโลกรัม ราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.5 – 1.7 แสนบาทกันแล้ว ที่ฝ่านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมได้เพียง 5 – 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังมีการลักลอบปลูกแห่งใหญ่ๆอีกหลายแห่งในพื้นที่ เป็นที่น่าเสียดายว่าส่วนใหญ่จะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ เพราะเป็นคนในพื้นที่รู้ช่องทางหลบหนีได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกการว่าจ้างจากกลุ่มนายทุนมาปลูกในป่าและภูเขา เพราะรายได้ดีกว่าการปลูกพืชเศรษฐกิจทั่วไป
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน