ทอมแสบเมืองอิเหนา ก่อคดีวางยาชิงทรัพย์หลาย จว.จนมุมสืบ สภ.เมืองเชียงใหม่

20 พ.ย. 2018
418
Spread the love

ทอมแสบเมืองอิเหนา ก่อคดีวางยาชิงทรัพย์หลาย จว.จนมุมสืบ สภ.เมืองเชียงใหม่

 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ณ สถานีตำรวจภูธรเมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาในคดี “ชิงทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบ” โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รรท.รอง ผบช.ภ.5 และทีมจับกุมในคดีนี้ คือ ทีมสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดยพ.ต.ท.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ผัดก๋า สว.สส.ฯ , พร้อมเจ้าหน้าที่อีกหลายฝ่าย เช่น จ้าพนักงานตารวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าพนักงานตารวจ สภ.ช้างเผือก เจ้าพนักงานตารวจ บก.สส.ภ.5 เจ้าพนักงานตารวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่

ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา ชาวอินโดนิเซีย ชื่อ MRS.LINDA WELLISH อายุ 54 ปี  หนังสือเดินทางประเทศอินโดนิเซีย หมายเลข B4688114 โดยผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้หญิงที่แต่งกายเป็นทอม พฤติการณ์ในการจับกุมโดยสังเขปคือด้วยเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2561 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าพนักงานตารวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์
วิทยุนครพิงค์ว่า มีชายชาวต่างชาตินอนเสียชีวิตที่ห้อง 304 โรงแรมโกลเด้นอินน์ ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมืองจ.เชียงใหม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องและแพทย์นิติเวชร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ เมื่อไปถึงพบศพชายชาวต่างประเทศ ทราบชื่อภายหลังว่า MR.AHMAD TARIO BHAT อายุ 45 ปี สัญชาติอินเดีย หนังสือเดินทาง
ประเทศอินเดียเลขที่ Z2316368 สภาพศพทั่วไปนอนหงายเสียชีวิตบนเตียงนอน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กางเกงชั้นในไม่สวมกางเกง มีน้าลายฟูมปาก สภาพศพไม่มีร่องรอยบาดแผล
หลังจากเจ้าหน้าที่ตารวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งเหตุ จึงได้กาหนดแนวทางการสืบสวนโดยการสอบสวนปากคาพนักงานของโรงแรมโกลเด้นอินน์ และน้องชายของผู้ตายในคดีนี้ จากนั้นได้ตรวจสอบรายละเอียดจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่ จนกระทั่งทราบตาหนิรูปพรรณของคนร้าย เป็นผู้หญิงรูปร่างท้วม สวมเสื้อสีดาแขนยาว กางเกงขายาว ทรงผมบ๊อบสั้นสีดา และเส้นทางก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุของคนร้ายต่อมาได้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ของ สภ.ช้างเผือก เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2561 จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน และมีการใช้สารเคมีบางชนิดผสมเครื่องดื่มให้กับผู้เสียหาย ทาให้
ผู้เสียหายสลบไป จากนั้นคนร้ายได้นาบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ไปรูดซื้อสินค้า(แหวนเพชร)ที่ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ราคารวมประมาณ 400,000 บาท ในวันเดียวกัน หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปจังหวัดลาปาง-กรุงเทพ และเดินทางออกนอกประเทศไทยโดยผ่านด่าน ตม.สะเดา เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ตารวจสันนิษฐานว่าแผนประทุษกรรมคนร้ายคือเข้าไปตีสนิทผู้เสียหาย แล้วจึงนัดกันไปที่พักและวางยาปลดเอาทรัพย์สิน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับคนร้ายในคดีนี้ และศาลจังหวัดเชียงได้อนุมัติหมายจับ จานวน 2 หมายจับ ในข้อหา ชิงทรัพย์ฯ , ลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเล็คทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต่อมาได้ประสานไปยังตารวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อติดตามคนร้ายต่อไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2561 คนร้ายในคดีนี้ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมือง โป่งน้าร้อน
จ.จันทบุรี จึงได้ดาเนินการจับกุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ และส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดาเนินคดีในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

 

จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุอีก 3 ครั้ง ดังนี้

1. พื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 ผู้เสียหายชาวอังกฤษ เหตุเกิดที่ ต.ในเมือง อ.เมืองจ.ขอนแก่น ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับไว้แล้ว ในข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ฯ”

2. พื้นที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2561 ผู้เสียหายชาวเยอรมัน เหตุเกิดที่ อุดรไทยเฮาส์รสอร์ทอ.เมือง จ.อุดรธานี

3. พื้นที่ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2561 ผู้เสียหายชาวเยอรมัน เหตุเกิดที่โรงแรมแลนด์มาร์ค

CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

รายงาน