ตำรวจเชียงใหม่จับเฮโรอีนรายใหญ่มูลค่ากว่า 14 ล้านบาทซุกกันชนเก๋ง
วันที่ 7 มีนาคม 2559 พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์, พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผบ.มทบ.33, พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนทม์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, ตำรวจ ภ.จว.เชียงใหม่, ตำรวจ สภ.แม่ปิง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 และทหารประจำท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายพัฒนพงศ์ จันทร์ผุด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 8 บ้านทำเนียบ ต.คีรีรัฐนิคม อ.ครีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ฯ พร้อมของกลาง ฮโรอีน มีสัญลักษณ์ตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลกสีแดงจำนวน 41 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 14.3 กก. มูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท, รถเก๋งยี่ห้อนิสัน รุ่นเทียน่า สีขาว ทะเบียน 4 กก 8314 กทม. จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที 6 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดเชียงใหม่ โดยการนำของ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่และ พ.ต.ท.ณัฏฐพล ใจกันทา รอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับผู้มีพฤติการณ์ในการขนยาเสพติด จากทางภาคเหนือไปส่งยังภาคใต้และได้รับแจ้งจากสายว่าได้มีชายคนหนึ่งน่าจะมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ว่าจ้างรถยกให้ไปยกรถยนต์ของกลาง ที่จอดเสียอยู่บริเวณทางเข้าโรงแรมฮอลิเดย์รีสอร์ท ต.หนองจ๊อม อ.สันทรายเชียงใหม่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบและทำการสืบสวนจนทราบว่า นายพัฒน์พงศ์ จันทร์ผุด ผู้ต้องหา เป็นผู้ว่าจ้าง และนายพัฒนพงศ์ จันทร์ผุด ได้เคยว่าจ้างในลักษณะเดียวกันนี้ให้ไปบรรทุกรถยนต์เสีย นำไปส่งที่ จ.สมุทรสงครามมาแล้วครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2558
จากข้อมูลดังกล่าวทางเจ้าหน้าทีตำรวจฯ พบพิรุธจึงเชื่อว่ารถยนต์คันดังกล่าวน่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวทันที พบว่า บริเวณกันชนด้านหลังของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว บริเวณน็อตยึดกันชนมีพิรุธ จึงได้ถอดกันชนออกพบว่าด้านข้างเจาะเป็นช่องเมื่อแกะออกภายในพบเฮโรอีนของกลาง และจากการสืบสวนทราบว่านายพัฒน์พงศ์ จะขึ้นเครื่องบินกลับจังหวัดสุราษฏร์ธานี ทางตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ และพบตัวนายพัฒนพงศ์ฯ จึงได้ควบคุมตัวไว้และได้เชิญตัวมาสอบปากคำ
พร้อมได้นำพยานหลักฐาน คือภาพจากกล้องวงจรปิดของท่าอากาศยานฯ และโรงแรมฮอลิเดย์รีสอร์ทฯ ที่อยู่ในโครงการ Police Eye ของตำรวจภาค 5 ที่แสดงว่านายพัฒน์พงศ์ เป็นผู้ครอบครองรถของกลางและยาเสพติด ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ได้บันทึกภาพ อย่างชัดเจน ผู้ต้องหาจึงยอมรับสารภาพ และได้ให้การกับตำรวจเพิ่มเติมว่า ได้ร่วมกับชาวเขาไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้นำเฮโรอีนมาบรรจุซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของกลางดังกล่าว และแจ้งให้ตนมาขับรถยนต์เก๋งดังกล่าวไปยังจุดหมาย ต่าง ๆ ผู้ต้องหาหลังจากรับสารภาพแล้วยังได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้บริเวณท่าอากาศยาน ที่โรงแรมฮอลิเดย์รีสอร์ทฯ และตึกแถวบริเวณ ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่บรรจุเฮโรอินของกลาง โดยได้ค่าจ้างจ้างสำหรับขนยาเสพติดฯ ครั้งละ 250,000 บาท โดยครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรก ก็ได้ค่าจ้าง 250,000 บาท เท่ากัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิงเพื่อดำเนินคดีต่อไป
