ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยึดเพิ่ม 60 ล้านบาทหลังปฏิบัติการทริปเปิ้ล 999

15 ก.ย. 2016
562
Spread the love

522383

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยึดเพิ่ม 60 ล้านบาทหลังปฏิบัติการทริปเปิ้ล 999

 

วันที่ 15 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น. ได้มีการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดและยึดทรัพย์ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 41/2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยมีพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา ผอ.ศอ.ปส./รอง หน.คสช./รมว.กระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมได้กำชับการปฏิบัติให้ทุกหน่วยดำเนินการป้องกันกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดมิให้เพิ่มขึ้นและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.(ปส.1) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.(ปป.2) และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปส.2) ร่วมรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด เพื่อขับเคลื่อนให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องถือดำเนินการตามคำสั่ง

โดยมีหลายหน่วยงานที่ร่วมมือแบบบูรณาการเช่น กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปส. สำนักงาน ปปง. สำนักงานอาหารและยา นำโดย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร ผบช.ปส. พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทรา สารสิน รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ปบก.ปส.4 พล.ต.ต.ณรงค์สักดิ์ ขันธวิจารณ์ ผบก.ขส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส. พ.ต.อ.ชัยโรจน์ ชัยยะ รองผบก.ปส.2 ทำหน้าที่โฆษก บช.ปส. พ.ต.อ.วรวิทย์ ไวถนอมสัตว์ รอง ผบก.ปส.1 หน.สนง.ผบช.ปส.ได้ร่วมกันอำนวยการสืบสวนเร่งรัดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปราบปรามยาเสพติดดังปรากฏผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดดังนี้ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่ ตร.ปช.ปส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เจ้าพนักงาน ปปง. เจ้าพนักงาน อย.พิสูจน์หลักฐานและ DSI  สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น เครือข่ายนักค้ายาเสพติดนายศดายุ เหลืองประดับใจ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.นครปฐม จ.ชลบุรี จ.หนองคาย จ.ชุมพร สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 คน นอกจากนี้ได้ดำเนินคดีกลุ่มเครือข่ายที่ถูกจับกุมในข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย จำนวน 17 คน (ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ภจว.นครราชสีมา) รวมผู้ต้องหาในคดีนี้ 33 ราย พร้อมด้วยของกลาง รวมทั้งสิ้น 16 รายการ ประกอบด้วย ยาบ้า จำนวน 172,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวจ 6 ก.ก. ยาอี จำนวน 1,450 เม็ด เคตามีนชนิดน้ำ จำนวน 520 ขวด กัญชา จำนวน 1 ก.ก.เคตามีนชนิดผง จำนวน 6.4 ก.ก. ยาปลุกเซ็กซ์ จำนวน 1 คันรถหกล้อ รถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ รถยนต์ตู้ รวมกันจำนวน 11 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เงินสด 33,560,970 บาท เงินสดในบัญชีประมาณ 600,000 บาท (อายัดบัญชี) ตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้ อาวุธปืน จำนวน 7 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 ประมาณ 800 นัด สำเนาพันธบัตรเงินลาวจำนวน 1 หมื่น 7 พันล้านกลีบ มูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 56 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือจำนวนหลายเครื่อง  โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ไอซ,ยาอี) ไว้ในครอบครองและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหา สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ร่วมกันฟอกเงิน

 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปิดตู้เซฟที่ยึดไว้ได้ในคดีนี้ พบเงินสดเพิ่มอีกจำนวน 60 ล้านบาท และอาวุธปืนกลและปืนพกสั้นจำนวนหลายกระบอก รวมมูลค่าแล้วเงินสดประมาณ 93 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด ประมาณ  160 กว่าล้านบาท

 

522339

CNX NEWS เจาะข่าว  ตรงใจคุณ

รายงาน