สกู๊ปพิเศษ CNX NEWS
ตลาดรถยนต์ระส่ำ ฝรั่งเศสเอาจริง- อีก 5 ปี เลิกใช้น้ำมันทั้งประเทศ
ท่านผู้อ่านครับ หากท่านติดตามข่าวมาอย่างยาวนานก็พอจะทราบว่าบางประเทศในยุโรปเร่งผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ใช้พลังงานฟอสซิลอย่างสมบูรณ์แบบให้เร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ บางประเทศเล็ก ๆ สามารถปฏิบัติจริงได้ แต่สำหรับบางประเทศที่มีประชากรหนาแน่น อาจจะต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อรอคอยการปรับตัวแต่วันนี้ พบข่าวใหญ่ครับ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย นิโคลาส ฮูล้อท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศแผนส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพว่า รัฐบาลมีแผนยุติการขายรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซลภายในปี 2040 เพื่อให้กลายเป็นประเทศปลอดก๊าซคาร์บอน
แผนการที่จะให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศปลอดมลภาวะดังกล่าวไม่ได้วาดวิมานในฝัน จนทำจริงไม่ได้ เพราะ นายฮูล้อท ได้บอกอีกด้วยว่าจะเสนอมาตรการภาษีที่จูงใจให้ประชาชนที่ครอบครองรถยนต์ดีเซลมากกว่า 20 ปี และ รถยนต์เบนซินที่ผลิตก่อนปี 2001 หันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแทน และรัฐบาลฝรั่งเศสจะยุติการสำรวจน้ำมันและก๊าซภายใต้อาณาเขตของประเทศ และจะกำจัดโรงไฟฟ้าถ่านหินภายในปี 2022 พร้อมทั้งส่งเสริมให้เจ้าของบ้านผลิตพลังงานเป็นของตนเอง
นายฮูล้อท ยอมรับว่าเป้าหมายของมาตรการดังกล่าวถือเป็นเป้าที่ยากลำบากมาก แต่เขาต้องการให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศเศรษฐกิจสีเขียวอันดับ 1 ให้ได้ (แต่ข่าวต้นไม่ได้ระบุว่า เป็นอันดับ 1 ของโลกหรืออันดับ 1 ของทวีปยุโรป)
ผลพวงจากนโยบายดังกล่าวก็น่าจะทำให้ PSA Group อันประกอบไปด้วย Peugeot, Citroen และ DS ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการภาษีจูงใจให้ประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ แต่โฆษก PSA Group กลับมองเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงไปพลังงานอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขนาดบริษัทยังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในอัตราส่วน 80% เมื่อเทียบกับไลน์อัพทั้งหมดภายในปี 2023 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทรถยนต์ยังไม่ได้รีบร้อนในการผลัดใบเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
แต่รัฐบาลฝรั่งเศสเอาจริงก่อน ด้วยมาตรการทางภาษีล่อ อย่างนี้ บริษัทผู้ผลิตจะโดดตะครุบหรือไม่ ต้องรอจนถึงวันนั้นครับ
อรุณ ช้างขวัญยืน เรียบเรียง/รายงาน