ตร.ภาค 5 ตามล่าฆาตกรตัวจริง !!!หลังปุ๊ พ้นคุก
วันที่ 23 ก.ค. 57 เวลา 10.00น. ณ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 (บก.สส.ภ.5) พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ประกอบด้วย พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผกก.บก.กก.1 สส.ภ.5 และชุดสืบสวนในการ ทำงานครั้งใหม่ กับคดีเก่าร่วม 10 ปีที่ผ่านมา คือคดี ฆ่ารัดคอ น.ส.เบญจภรณ์ หรือแอนนี่ ผ่องผิว อายุ 27 ปี ซึ่งสภาพศพมีผ้าพันคอสีดำปิดตา แขนทั้งสองถูกมัดด้วยเข็มขัดนิรภัย คอถูกรัดด้วยเข็มขัดนิรภัยติดกับต้นกระถินภายในป่าละเมาะหลังปั๊มน้ำมัน ปตท. ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2548
หลังจาก นายวุฒิชัย ใจสมัคร หรือ “ปุ๊ วอร์มอัพ” ตกเป็นผู้ต้องหาและถูกจำคุกนานกว่า 3 ปี และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 57 ที่ผ่านมาศาลฎีกาได้ยกฟ้อง ทำให้นายวุฒิชัย ใจสมัคร ได้เป็นอิสระ จึงได้มีการ สั่งตั้งคณะทำงานที่รวบรวมชุดสืบสวนที่เคยทำคดีนี้มาก่อน มาร่วมกันทำงานอีกครั้ง โดยได้มอบหมายให้นำพยานหลักฐานเดิมมาวิเคราะห์ใหม่ ดูว่ามีส่วนใดที่ตกค้าง และหาพยานหลักฐานใหม่ ๆ มาเพิ่มเติม หากหลังจากนี้พยานหลักฐานบ่งชี้ไปถึงผู้ต้องสงสัยรายใดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวอีกว่า แม้คดีนี้จะผ่านมานานประมาณ 9 ปีแล้ว แต่ไม่รู้สึกหนักใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด เพราะมีพยานหลักฐานเดิมที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมใหม่ไว้แล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะด้านนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ส่วนคดีนี้แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาแล้ว แต่ทางตำรวจยังสามารถทำงานต่อไปได้ เพราะคดีนี้ทางตำรวจได้ยุติการสอบสวนในปี 2549 เนื่องจากพ่อและแม่ของน้องแอนประสงค์จะฟ้องคดีด้วยตัวเอง หากหลังจากนี้มีพยานหลักฐานที่จะระบุถึงตัวคนร้ายได้ก็จะจับกุมและส่งฟ้องทันที
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพสเก็ต ผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมได้ตั้งเป้าผู้ต้องสงสัยไว้ 2 คนส่วนพยานหลักฐานอื่น ๆ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงานเพราะคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนสนใจ ทั้งในประเด็นการตายพยานหลักฐาน และการพิจารณาคดีของศาลที่ทำให้ “ปุ๊” วอร์มอัพ ถูกยกฟ้อง และเป็นอิสระในที่สุด
