ชาวบ้านสมุทรสาคร บุกเชียงใหม่ขอเคลียร์หุ้นส่วนผู้จัดการ”ตั๊กแตน”

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2557 เวลาประมาณ 13.00 น. มีชาวบ้านจังหวัดสมุทรสาครเหมารถตู้มาตามหาหุ้นส่วนผู้จัดการของตั๊กแตน ชลดา หลังทราบข่าวว่ามาทำโครงการบ้านจัดสรรที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำโครงการบ้านจัดสรรที่ จังหวัดสมุทรสาครแต่มีปัญหาโอนไม่ได้

โดยมีชาวบ้านประมาณ 11 รายจากหลายจังหวัด ที่ซื้อบ้านจากโครงการเศรษฐศิริ จังหวัดสมุทรสาคร มารวมตัวกันที่หน้าหมู่บ้านชลดา ล้านนาไลฟ์ ร้องเรือนคำ ซอย 8 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอเข้าพบ น.ส.เบญจวรรณ ริบแจ่ม และ นายธนกร ธุรกิจรุ่งเรือง (สามี) เพื่อมาติดตามทวงสัญญาและหนี้จากคนทั้งสอง หลังจากที่ได้เห็นข่าวจากสื่อที่เผยแพร่ออกไป ว่า  น.ส.เบญจวรรณ ริบแจ่ม ได้มาทำโครงการบ้านจัดสรร ชื่อ หมู่บ้านชลดา ล้านนาไลฟ์ อยู่ที่เชียงใหม่จึงได้รวมตัวกันมาขอความเป็นธรรม และขอให้ นางสาวเบญจวรรณ ริบแจ่ม ออกมาไกล่เกลี่ยแต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่มาเชิญตัวเพื่อไปเจรจากันที่สถานีตำรวจ หลังจากนั้น นางสาวเบญจวรรณ ริบแจ่ม จึงได้เดินทางมาสถานีตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่พร้อมกับทนายความ

หลังจากนั้น นางสาวกนกวรรณ แสงงาม หนึ่งในชาวบ้านที่มาร้องเรียนได้เล่าเหตุการณ์ให้ กับ พนังานสอบสวนว่า ตนเองได้ทำสัญญาซื้อ-ขายบ้าน กับทางโครงการเศรษฐศิริ ที่ จ.สมุทรสาคร โดยทำสัญญาตรงกับโครงการไม่ผ่านธนาคาร เป็นเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท และทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน จะมีการเซ็นต์ชื่อรับเงินทุกครั้งจากนางสาวเบญจวรรณ ริบแจ่ม  แต่ตอนนี้ทางโครงไม่สามารถโอนบ้านให้เป็นชื่อของตนได้ เพราะบ้านหลังดังกล่าว ทางโครงการก็นำไปขายต่อให้ อีกคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อกู้กับธนาคาร โดยทำสัญญาตกลงกับฝ่ายที่ใช้ชื่อกู้นี้ เพียง 3 ปี และคนที่ใช้ชื่อกู้นี้ ได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 20,000 บาทและก่อนที่ธนาคารจะหักเงินค่าบ้าน ทางโครงการก็จะโอนเงินจำนวนนี้เข้าบัญชีให้ก่อนที่จะถูกหัก ซึ่งตอนแรก ก็โอนเข้าให้ปกติ แต่ทีหลังมาเริ่มช้า และไม่โอนเลย ซึ่งในตอนนี้ก็เลยสัญญา 3 ปีมาแล้ว จึงอยากให้ทางโครงการเอาเงินไปปิดธนาคาร เพราะธนาคารหักเงินเดือนไปทุก ๆ เดือน โดยที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเลย ซึ่งผู้เสียหายที่มาในวันนี้จะโดนกรณีแบบนี้เหมือนกันเกือบทุกราย

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม นางสาวเบญจวรรณ ริบแจ่ม ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทาง ตั๊กแตน ได้มีส่วนรู้เห็นไหมเพราะเป็นหุ้นส่วนกัน ทางนางสาวเบญจวรรณ ก็ตอบว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนก็ได้ชี้แจ้งกับชาวบ้านว่า เหตุเกิดในท้องที่ จ.สมุทรสาคร ทาง สภ.เมืองเชียงใหม่ไม่มีอำนาจสอบสวนแต่จะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อไปดำเนินการต่อที่ สภ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร และทางทนายความของ นางสาวเบญจวรรณ ริบแจ่ม จึงได้ยื่นข้อเสนอให้กับชาวบ้านที่มาร้องเรียน ว่าจะเดินทางไปพบที่ สภ.มหาชัย จ.สมุทรสาครในวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้ เพื่อเจรจากันอีกครั้งคู่กรณีจึงได้แยกย้ายกันกลับ

CNX NEWS รายงาน