จับแก๊งฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน เรียกเงินค่าวิ่งเต้นรายละ 7 หมื่น ถึง 1 แสนบาท
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้จับกุม แก๊งฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน โดยการแอบอ้างว่าเป็นทหารสามารถนำบุคคลเข้ารับราชการทหารได้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้น โดย พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช. ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์. ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.อ.โอม สิทธิสาร รอง ผบ.มทบ.33 และ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว
ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายชาญวิทย์ ตรัยสถิตย์ อายุ 25 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา หัวหน้าแก๊ง และนายศักดิ์สิทธิ์ เงียบจังหรีด อายุ 30 ปี เป็นชาวนครราชสีมา เช่นกัน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง ชุดเครื่องแบบทหาร ติดยศ ร.ท. 1 ชุด , ร.ต. 4 ชุด และ ส.ต.1 ชุด รวม 6 ชุด อาวุธปืนพกสั่น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 22 นัด สมุดบัญชีธนาคารทหารไทย 2 เล่ม ธนาคารกรุงไทย 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจำตัวข้าราชการทหารปลอม 7 ใบ กระเป๋าเป้ 3 ใบ วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อไอค่อม 1 เครื่อง รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ชีวีค ทะเบียน สฬ 8896 กรุงเทพฯ 1 คัน และเอกสารใบรับรองแพทย์ของบุคคลต่างๆที่เป็นผู้เสียหายกว่า 60 ใบ
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ห้องพักเลขที่. 201 , 202 , 203 โรงแรมเมย์ ไอ อินน์ โฮเทล ถนนท่าแพ ซอย 1 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหา คือนายชาญวิทย์ ได้แอบอ้างเป็นนายทหารยศ ร.ท. สามารถนำบุคคลเข้ารับราชการทหาร แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าดำเนินการ ชั้นยศ ส.ต. เสียค่าดำเนินการ 70,000 บาท และ ชั้นยศ ร.ต. เสียค่าดำเนินการ 100,000บาท ขณะที่นายศักดิ์สิทธิ์ รับสารภาพว่าเป็นนายหน้าไปหาคนที่อยากเป็นทหาร ได้รับเงินส่วนแบ่งรายละ 50,000-60,000 บาทโดยมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจังหวัดทางภาคอีสานมาชี้ตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อให้มาแจ้งความเพิ่มเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา”
ฉ้อโกงประชาชน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่งเครื่องแบบทหารโดยไม่มีสิทธิ์ มีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไมได้รับอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ