วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

จับมือ 7 ธนาคารพาณิชย์สัญจรพื้นที่ภาคเหนือ มุ่งช่วย SMEs

06 ส.ค. 2013
200
Spread the love

จับมือ 7 ธนาคารพาณิชย์สัญจรพื้นที่ภาคเหนือ มุ่งช่วย SMEs ที่ได้รับผลกระทบ

 

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (สสว. )กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ 7 ธนาคารพาณิชย์สัญจรพื้นที่ภาคเหนือ มุ่งช่วย SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงงาน ด้วยการสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี เชื่อมั่นจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ SMEs ในพื้นที่ภาคเหนือให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพี่อลดผลกระทบจากการปรับค่าแจ้งแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน พร้อมกล่าวว่า ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินมาตรการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีในการช่วยบรรเทาปัญหาด้านต้นทุนการผลิตและคงสภาพการจ้างงานให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยดำเนินโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินสินเชื่อ ระยะเวลา 1 ปี วงเงินกู้ยืมไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท  ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดภาระหน้าที่ด้านการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถปรับตัวในระยะสั้น สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างโอกาสและรักษาสภาพการจ้างงานให้แก่ SMEs ในภาคการผลิต ภาคการค้าปลีก-ค้าส่ง และภาคบริการ ที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นจำนวน 12 ธุรกิจและอยู่ในพื้นที่ที่มีการปรับขึ้นค่าแรงงาน มากกว่าร้อยละ 20 รวมทั้งสิ้น 51 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ให้สามารถดำเนินกิจการและรักษาสภาพการจ้างงานได้ต่อไป

อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก 7 สถาบันการเงินได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมีวงเงินงบประมาณจำนวน 193 ล้านบาทและคาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 6,300 ราย

ด้านนายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รอง ผอ.รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า สสว.พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศได้เข้าถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐ จึงได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่รายละเอียดของโครงการโดยจัดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการ SMEs และครั้งที่เป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs พื้นที่ภาคเหนือซึ่งประกอบด้วย 17 จังหวัด ได้รับรู้และสามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือได้ สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นับเป็นศูนย์กลางของพื้นที่ภาคเหนือที่เป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการจ้างงาน โดยมีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs รวม 93,235 ราย มีการจ้างงาน 343,497 คนและเมื่อพิจารณาถึงตัวเลขผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีจำนวน 466,300 รายมีการจ้างแรงงานกว่า 1,700,000 คน

สสว.จึงเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดต่างๆในเขตภาคเหนือให้สามารถลดภาระต้นทุนการผลิต ช่วยรักษาสภาพการจ้างงานให้คงอยู่ซึ่งหมายถึงการสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เติบโตและยั่งยืนต่อไป

สำหรับโครงการสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ SMEs เพื่อลดผลกระทบจากการปรับค่าจ้างแรงงานในอัตรา 300 บาทต่อวัน จะเป็นการชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินสินเชื่อ วงเงินกู้ยืมไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายและอยู่ใน 12 กลุ่มธุรกิจได้แก่ กลุ่มธุรกิจสิ่งทอ และเครื่องนุ่มห่ม กลุ่มธุรกิจอาการและเครื่องดื่ม กลุ่มธุรกิจการผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะประดิษฐ์ กลุ่มธุรกิจภัตตาคารร้านขายอาหาร กลุ่มธุรกิจผลิตไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก กลุ่มธุรกิจการก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง และผลิตภัณฑ์พลาสติก กลุ่มธุรกิจการขายปลีก กลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พักชั่วคราว กลุ่มธุรกิจการขนส่ง กลุ่มธุรกิจบำรุงรักษา ซ่อมแซมยานยนต์และจักรยานยนต์ การขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ และกลุ่มธุรกิจการผลิตเครื่องเรือนรวมถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และอัญมณีเครื่องประดับ.

 

 

สำนักข่าว

Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน