จังหวัดเชียงใหม่ เปิดการฝึกอบรมครูฝึกชุดรักษาความปลอดภัย

จังหวัดเชียงใหม่ เปิดการฝึกอบรมครูฝึกชุดรักษาความปลอดภัย

          จังหวัดเชียงใหม่ เปิดการฝึกอบรมครูฝึกชุดรักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้านเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้าน ให้บุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้นำเอาความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปพัฒนาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของแต่ละอำเภอให้มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป้องกันและช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา  เวลา 13.00 น. นายวิเชียร  พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมครูฝึกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของจังหวัดเชียงใหม่ ณ โรงแรมคุ้มภูคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี อำเภอแม่รอม จังหวัดเชียงใหม่

นายโชคดี  อมรรัตน์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันกระแสโลกาภิวัตน์ทำให้โลกเชื่อมโยงเครือข่ายกันหมด ในลักษณะไร้พรหมแดน ส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมืองระหว่างประเทศ และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ที่มีปัญหาวุ่นวายแตกแยกทางความคิด จังหวัดเชียงใหม่จึงมีแนวคิดที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับพลังมวลชน ของชุมและหมู่บ้านเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน และได้มีระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการช่วยเจ้าพนักงานของหน่วยกำลังคุ้มครองรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2554 จังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการฝึก 4 ขั้นตอนดังนี้ 1.ฝึกอบรมครูฝึกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จำนวน 440 คน (อำเภอละ 17 คน) ประกอบด้วย ตำรวจ 12 นาย เจ้าหน้าที่อำเภอ 5 นาย โดยฝึกอบรมระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2557 จำนวน 2 วัน 1 คืน โดยวันแรกฝึกอบรม ณ โรงแรมคุ้มภูคำ ส่วนวันที่ 2 ฝึกอบรม ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี2.ฝึกอบรมทบทวนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) รุ่นแรกหมู่บ้านละ 5 คน รวม 2,040 หมู่บ้าน รวม 10,200 คน และรุ่นที่สองฝึกอบรมทบทวนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเพิ่มอีก หมู่บ้านละ 5คน รวม 2,040 หมู่บ้าน รวม 10,200 คน 3.ฝึกอบรมภาคกองพลชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านโดยจะแบ่งเป็น 3 โซน คือโซนเหนือใช้พื้นที่ของอำเภอฝางเป็นศูนย์กลาง โซนกลางใช้พื้นที่ของกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ที่ 1 เป็นศูนย์กลาง และโซนใต้ใช้พื้นที่อำเภอจอมทองเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ผ่านการอบรม ตามขั้นตอนที่ 2 4.ฝึกอบรมสมาชิก อส.ประเภทสำรอง จำนวน 2,000 คน โดยคัดเลือกจากผู้ที่ผ่านการฝึกจากชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในขั้นตอนที่ 2-3 โดยวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพพลังมวลชนในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อพัฒนาไปสู่หมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง ให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเหลือเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจ ซึ่งเป็นกำลังขับเคลื่อนนโยบายของจังหวัดและนโยบายของรัฐบาล ซึ่งบทบาทหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ได้ระบุไว้ในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 ,มาตรา 94 มาตรา 95 และมาตรา 102 และพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง พ.ศ.2522 มาตรา 16 และมาตรา 18 ว่ามีหน้าที่อยู่เวรรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ตรวจตระเวน รักษาความสงบเรียบร้อย สืบสวนหาข่าวพฤติการณ์อันอาจเป็นภยันอันตรายต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อย เฝ้าระวังรักษาสถานที่สำคัญ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกหมู่บ้าน รายงานเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา ตรวจค้นบุคคลหรือยานพาหนะซึ่งมีเหตุสงสัยตามสมควรว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จับผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นต้น

ในการฝึกอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ผลที่คาดว่าจะได้รับในการฝึกอบรมนี้ ให้บุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้นำเอาความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปพัฒนาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของแต่ละอำเภอให้มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป้องกันและช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ และเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี ในชุมชนหมู่บ้านซึ่งจำนำพาความสงบสุขให้เกิดต่อประเทศชาติต่อไป

สำนักข่าว